จีนขยายอิทธิพลในอาเซียนผ่านเมกะโปรเจกต์

จีนขยายอิทธิพลในอาเซียนผ่านเมกะโปรเจกต์ลงทุนใหญ่ 'มาเลเซีย-อินโดนีเซีย' จะตอบรับอย่างไรในฐานะสมาชิก BRICS?
23-6-2025
CNA รายงานว่า จีนกำลังขยายการลงทุนครั้งใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านโครงการเมกะโปรเจกต์หลากหลายประเภท เช่น นิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ โรงงานแปรรูปนิกเกิล และโรงงานผลิตรถยนต์ ซีรีส์ข่าว China And The Global South ของ CNA วิเคราะห์ผลกระทบของโครงการเหล่านี้ในช่วงเวลาที่สงครามการค้าของสหรัฐฯ สร้างความไม่แน่นอนในภูมิภาค
ผลสำรวจ State of Southeast Asia 2025 โดย ISEAS – Yusof Ishak Institute ในสิงคโปร์ เผยว่า หากอาเซียนต้องเลือกข้างระหว่างมหาอำนาจโลก ชาวมาเลเซียถึง 71% เลือกจีนเหนือสหรัฐฯ
อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมมาเลเซีย ออง เคียน มิง (Ong Kian Ming) ชี้ว่าเหตุผลสำคัญที่ชาวมาเลเซียสนับสนุนจีน คือ “ความสำคัญทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น” ของจีนในภูมิภาค โดยเห็นได้จากการท่องเที่ยว การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในหลายภาคส่วน และจำนวนชาวจีนที่เดินทางมาลงทุนในมาเลเซียเพิ่มขึ้น
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงของ Proton แบรนด์รถยนต์ประจำชาติของมาเลเซีย และโครงการ East Coast Rail Link ที่จีนมีบทบาทสำคัญ
ในอินโดนีเซีย แม้ประชากรราว 73% จะมองว่ากิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้เป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยประเทศ แต่ผลสำรวจเดียวกันพบว่า 72% สนับสนุนการจัดแนวร่วมกับจีน อินโดนีเซียมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อจีนในฐานะประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีตำแหน่งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทอดยาวจากตะวันออกไปตะวันตก พร้อมเกาะนับพันแห่ง
นายวิกเตอร์ เกา (Victor Gao) รองประธานศูนย์เพื่อจีนและโลกาภิวัตน์ ชี้ว่าอินโดนีเซียมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะการย้ายเมืองหลวงจากจาการ์ตาไปยังนูซันตารา กาลีมันตันตะวันออก ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนและนวัตกรรมทางวิศวกรรมจำนวนมาก
นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังมีชุมชนชาวจีนโพ้นทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มากกว่า 11 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
จีนได้ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือ โรงงานแปรรูปนิกเกิล และโรงงานผลิตรถยนต์ในมาเลเซียและอินโดนีเซียอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นตลาดกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา (Global South) ซึ่งมีประชากรรวมกว่า 85% ของโลก
อาเซียนถือเป็นตลาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศรวม 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 ซึ่งเป็นอันดับ 5 ของโลก
ในมาเลเซีย โครงการ East Coast Rail Link ระยะทาง 665 กิโลเมตร กำลังดำเนินการ โดยเชื่อมท่าเรือกลังกับชายฝั่งตะวันออกที่กลันตัน ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2027 ด้วยความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. โครงการนี้ใช้งบประมาณกว่า 65,500 ล้านริงกิต (15,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีการใช้เทคโนโลยีและแรงงานจากจีนอย่างกว้างขวาง
นิคมอุตสาหกรรมมาเลเซีย-จีนที่กวนตัน ซึ่งเชื่อมต่อกับท่าเรือกวนตันที่ได้รับการขยายและปรับปรุงโดยบริษัทจีน Guangxi Beibu Gulf International Port Group ดึงดูดการลงทุนกว่า 31,000 ล้านริงกิต และคาดว่าจะสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่ง
ในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ มาเลเซียกำลังผลักดันการเปลี่ยนแปลงของ Proton โดยได้รับการสนับสนุนจาก Zhejiang Geely Holding Group ของจีน ซึ่งเข้าซื้อหุ้น 49.9% ในปี 2017 และล่าสุดเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า e.Mas 7 ที่ราคาย่อมเยา
ในอินโดนีเซีย จีนเป็นพันธมิตรหลักในการพัฒนาภาคนิกเกิลและยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีการลงทุนในโรงงานแปรรูปนิกเกิลและวัสดุแบตเตอรี่ รวมถึงโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ GAC Aion และ BYD อินโดนีเซียยังเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองในเวทีโลก
นักวิเคราะห์บางส่วนเตือนถึงความเสี่ยงจากการพึ่งพาจีนมากเกินไป แต่รัฐบาลอินโดนีเซียยืนยันจุดยืนไม่เอียงเข้าข้างฝ่ายใด และมุ่งเน้นผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.channelnewsasia.com/cna-insider/china-global-south-mega-investments-malaysia-indonesia-asean-pivot-5158541