อินโดนีเซีย-EUบรรลุข้อตกลงการเมืองหลังเจรจานาน10ปี

อินโดนีเซีย - EU บรรลุข้อตกลงการเมือง หลังเจรจานาน 10 ปี กระชับสัมพันธ์เศรษฐกิจ ปูทาง FTA ท่ามกลางสงครามการค้าสหรัฐฯ
14-7-2025
SCMP รายงานว่า อินโดนีเซีย- EU บรรลุข้อตกลงการเมือง เดินหน้าข้อตกลงการค้าเสรีฉบับประวัติศาสตร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อูร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) และประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต (Prabowo Subianto) ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ถึง “ข้อตกลงทางการเมือง” เพื่อเดินหน้าสู่การสรุปข้อตกลงการค้าเสรีที่รอคอยกันมานาน ท่ามกลางสถานการณ์การค้าโลกที่ผันผวนจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ของสหรัฐฯ
“เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ปั่นป่วน เมื่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมาบรรจบกับความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ คู่ค้าที่มีศักยภาพอย่างเราจำเป็นต้องใกล้ชิดกันมากขึ้น วันนี้เรากำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างสำคัญในความเป็นหุ้นส่วนนี้” ฟอน แดร์ ไลเอิน กล่าวกับสื่อมวลชนที่กรุงบรัสเซลส์ (Brussels)
“ดิฉันมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะรายงานว่า เราเพิ่งบรรลุข้อตกลงทางการเมืองเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีที่มีความทะเยอทะยาน”
กลุ่มสหภาพยุโรป (European Union: EU) ซึ่งมีสมาชิก 27 ประเทศ และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เจรจาข้อตกลงนี้มาตั้งแต่ปี 2016 โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
แถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ระบุว่าข้อตกลงเมื่อวันอาทิตย์ถือเป็น “หมุดหมายสำคัญ” ที่จะนำไปสู่การสรุปข้อตกลงอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ โดยมารอส เซฟโควิช (Maros Sefcovic) กรรมาธิการด้านการค้าของ EU และแอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต (Airlangga Hartarto) รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย จะเป็นผู้ลงนาม
“ยังมีศักยภาพอีกมากในความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเรา ข้อตกลงนี้จึงเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม เพราะจะเปิดตลาดใหม่ ๆ” ฟอน แดร์ ไลเอิน กล่า
“ข้อตกลงนี้จะสร้างโอกาสมากขึ้นในอุตสาหกรรมหลัก กิจกรรมทางธุรกิจ เกษตรกรรม ยานยนต์ และบริการ”
อินโดนีเซียถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 5 ของสหภาพยุโรป โดยมูลค่าการค้าระหว่างสองฝ่ายในปีที่แล้วอยู่ที่ 30.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บรัสเซลส์ได้เร่งสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรสำคัญทั่วโลก ท่ามกลางความเสี่ยงสงครามการค้าจากมาตรการภาษีของทรัมป์
“ข้อตกลงทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่และสำคัญนี้กับอินโดนีเซีย ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเรากำลังมองหาตลาดใหม่ ตลาดที่เปิดกว้าง” ฟอน แดร์ ไลเอิน กล่าว
ด้านประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต เรียกการประกาศข้อตกลงที่บรัสเซลส์ว่าเป็น “ความก้าวหน้าครั้งสำคัญ”
“หลังจากเจรจายาวนานถึง 10 ปี เราก็ได้ข้อสรุปสำหรับ Comprehensive Economic Partnership Agreement ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วคือข้อตกลงการค้าเสรี” เขากล่าว
ประธานาธิบดีอินโดนีเซียยังกล่าวว่า “เรายังคงมองว่ายุโรปเป็นปัจจัยสำคัญ และต้องการเห็นยุโรปที่แข็งแกร่งมาก ๆ” แต่ยืนยันว่า “สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำสำคัญของโลกเสมอ”
ความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซียกับสหภาพยุโรปเคยตึงเครียดจากข้อเสนอของสหภาพยุโรปที่จะห้ามนำเข้าสินค้าที่เชื่อมโยงกับการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับอินโดนีเซียในฐานะผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่
อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวถูกเลื่อนบังคับใช้ไปจนถึงสิ้นปีนี้
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/?module=masthead&pgtype=article