ราคาทองคำอาจพุ่งแตะ 4,400 ดอลลาร์ ในเร็วๆ นี้ มีอะไรเป็นปัจจัยหนุน?

7-8-2025

   Metal Metals รายงานว่า แม้ราคาทองคำจะค่อนข้างทรงตัวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าทองคำกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยมีศักยภาพที่จะพุ่งสูงขึ้นไปแตะระดับประมาณ 4,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะเวลาอันใกล้

สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้แนวโน้มขาขึ้น

รูปแบบสามเหลี่ยมที่ก่อตัวขึ้นในกราฟทองคำปัจจุบัน มีลักษณะคล้ายคลึงกับที่เคยเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2024 ซึ่งนำไปสู่การปรับตัวขึ้น 900 ดอลลาร์สหรัฐฯ การทะลุออกจากรูปแบบสามเหลี่ยมอย่างเด็ดขาด พร้อมปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการกลับมาของตลาดวอลล์สตรีท (Wall Street) ในเดือนกันยายน อาจกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวแบบ "Measured Move" อีก 900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ผลักดันให้ทองคำแตะระดับ 4,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของธนาคาร JPMorgan และ Goldman Sachs ที่มองว่าทองคำจะถึง 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2026 นอกจากนี้ การที่ทองคำได้ทะลุรูปแบบ "Cup and Handle" ขนาดใหญ่ที่ย้อนไปถึงปี 2011 ในเดือนมีนาคม 2024 ยังบ่งชี้ถึงศักยภาพการเติบโตระยะยาวของตลาดกระทิง

ปัจจัยพื้นฐานหนุนตลาดกระทิงของทองคำ

นโยบายการเงิน: โอกาสที่ Federal Reserve (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนพุ่งสูงถึง 75% หลังรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมอ่อนแอ (สร้างงานเพียง 73,000 ตำแหน่ง และปรับลดตัวเลขพฤษภาคม-มิถุนายนลง 258,000 ตำแหน่ง) ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำและลบต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ปริมาณเงินและหนี้: ปริมาณเงิน M2 money supply ของสหรัฐฯ กลับมาขยายตัวอย่างรวดเร็ว (เพิ่มขึ้น 1.36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และหนี้สาธารณะสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ปัจจุบัน 37.19 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดเกิน 40 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไม่กี่ปีข้างหน้า) ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยหนุนเงินเฟ้อและราคาทองคำ

ความต้องการจากธนาคารกลาง: ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงมีความต้องการทองคำอย่างมหาศาล โดยเฉลี่ยกว่า 1,000 ตัน ต่อปีในช่วงปี 2022-2024 เพื่อกระจายความเสี่ยงและป้องกันเงินเฟ้อ

การหมุนเวียนเงินทุนและศักยภาพนักลงทุนสหรัฐฯ

การหมุนเวียนเงินทุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าสูงเกินจริงเข้าสู่ทองคำกำลังเริ่มต้นขึ้น อัตราส่วน Dow-to-gold ที่ทะลุแนวโน้มขาขึ้นตั้งแต่ปี 2012 เมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2024 บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวัฏจักรการลงทุน ซึ่งมักกินเวลา 10-15 ปี ดัชนี Buffett Indicator ซึ่งวัดมูลค่าตลาดหุ้นเทียบกับ GDP อยู่ที่ 214 สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง 149% (ค่าเฉลี่ย 86) และสูงกว่าจุดสูงสุดของฟองสบู่ดอทคอมปลายทศวรรษ 1990 ซึ่ง Warren Buffett (วอร์เรน บัฟเฟตต์) เองเคยเตือนว่าการเข้าใกล้ 200% คือการ "เล่นกับไฟ" บ่งชี้ถึงความเสี่ยงของการปรับฐานครั้งใหญ่ในตลาดหุ้น และการไหลของเงินทุนเข้าสู่ทองคำในระยะยาว (คาดการณ์ถึง 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ในทศวรรษหน้า)

แม้ทองคำจะปรับขึ้น 71% แล้ว แต่ส่วนใหญ่มาจากธนาคารกลางและนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนสหรัฐฯ ยังคงเข้าสู่ตลาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป (การถือครอง SPDR Gold Shares (GLD) เพิ่มขึ้นเพียง 16% เป็น 953 ตัน ต่ำกว่าจุดสูงสุดปี 2012 ที่ 1,350 ตัน) การมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสหรัฐฯ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในอนาคต

โดยสรุป ผู้เชี่ยวชาญเชื่อมั่นว่าตลาดกระทิงของทองคำยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยมีแรงขับเคลื่อนอันทรงพลังมากมายที่พร้อมจะผลักดันให้ราคาสูงขึ้นไปอีก

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/08/05/why-gold-may-soon-surge-to-4400-004243