.

บราซิล-จีน เดินหน้าศึกษารถไฟข้ามทวีป 2,800 ไมล์ เชื่อมแอตแลนติก-แปซิฟิก-เศรษฐกิจอเมริกาใต้-เอเชีย
14-7-2025
Newsweek รายงานว่า บราซิล (Brazil) และจีน (China) ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพื่อเริ่มต้นการศึกษาความเป็นไปได้ด้านเทคนิค สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจสำหรับโครงการรถไฟข้ามทวีปความยาว 2,800 ไมล์ (ประมาณ 4,506 กิโลเมตร) ซึ่งจะเชื่อมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของบราซิลกับท่าเรือ Chancay บนมหาสมุทรแปซิฟิกของเปรู (Peru)
ข้อตกลงดังกล่าวเป็นบันทึกความเข้าใจ (MoU) ระหว่าง Infra S.A. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของบราซิลในสังกัดกระทรวงคมนาคม กับ China Railway Economic and Planning Research Institute โดยเปิดเผยต่อสาธารณะในวันจันทร์ที่ผ่านมา
### ทำไมโครงการนี้จึงสำคัญ
หากโครงการนี้เกิดขึ้นจริง จะเป็นการพลิกโฉมโครงสร้างโลจิสติกส์ของภูมิภาคด้วยมูลค่าการลงทุนที่อาจสูงกว่า 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การเชื่อมต่อบราซิลกับมหาสมุทรแปซิฟิกในเปรูจะช่วยลดระยะเวลาขนส่งสินค้าไปเอเชียได้ถึง 12 วัน เมื่อเทียบกับเส้นทางผ่านคลองปานามา (Panama Canal)
โครงการนี้ยังช่วยกระจายความเสี่ยงจากจุดคอขวดทางทะเล เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างอเมริกาใต้กับเอเชีย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกอเมริกาใต้ในตลาดเอเชีย อาจนำไปสู่การปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก
### รายละเอียดโครงการและความคืบหน้า
การศึกษาความเป็นไปได้นี้เกิดขึ้นหลังจากความร่วมมือที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างบราซิลกับจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนเมษายน คณะผู้แทนจากจีนได้เยี่ยมชมเส้นทางรถไฟ Fico และ Fiol ของบราซิล ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญของโครงการใหญ่ รวมถึงได้สำรวจท่าเรือ Santos ซึ่งเป็นท่าเรือที่คึกคักที่สุดในละตินอเมริกาและอยู่ระหว่างการขยายด้วยเงินลงทุนจากจีน
เส้นทางรถไฟที่วางแผนไว้จะเริ่มจากเมือง Ilhéus ในรัฐ Bahia ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ผ่านป่าแอมะซอน (Amazon) และรัฐ Acre ก่อนข้ามเทือกเขา Andes เข้าสู่เปรู จุดหมายปลายทางสุดท้ายคือท่าเรือ Chancay บนฝั่งแปซิฟิก
ด้วยมูลค่าโครงการที่ประเมินไว้กว่า 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาใต้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งสองประเทศยังจำกัดขอบเขตความร่วมมือไว้ที่การศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น โดยคาดว่ากระบวนการศึกษาจะใช้เวลาสูงสุดถึง 5 ปีก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนก่อสร้าง
### ความท้าทายและข้อกังวล
การศึกษาความเป็นไปได้ต้องพิจารณาอุปสรรคด้านโลจิสติกส์ เทคนิค และสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน เนื่องจากเส้นทางรถไฟจะผ่านพื้นที่ระบบนิเวศเปราะบาง เช่น ป่าแอมะซอนและเทือกเขา Andes ซึ่งสร้างความกังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ยังไม่มีข้อผูกพันสุดท้ายเกี่ยวกับเส้นทางหรือมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังการเจรจาและการลงพื้นที่ตรวจสอบหลายเดือน รวมถึงการประเมินเส้นทาง Fico และ Fiol
นอกจากนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนยังคงลงทุนขยายท่าเรือสำคัญในบราซิล โดยเฉพาะท่าเรือ Santos ขณะที่การมีส่วนร่วมของประเทศอื่นในภูมิภาค เช่น เปรูและประเทศเพื่อนบ้าน จะเป็นประเด็นที่ต้องหารือในระหว่างการศึกษา
### มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
วิเซนเต้ อาบาเต้ (Vicente Abate) ประธานสมาคมผู้ผลิตอุปกรณ์รถไฟบราซิล Abifer กล่าวกับ BNamericas ว่า "โครงการนี้เป็นเรื่องที่ดีมากเพราะช่วยลดเวลาและต้นทุนโลจิสติกส์ เนื่องจากการเชื่อมต่อไปยังเอเชียผ่านมหาสมุทรแปซิฟิกเร็วกว่าผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก แต่การดำเนินโครงการรถไฟในขนาดนี้มีความท้าทายในการดำเนินการ ตั้งแต่ประเด็นการระดมทุนไปจนถึงการดำเนินโครงการและการขออนุญาต"
อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า “การดำเนินโครงการรถไฟขนาดใหญ่นี้มีความท้าทายหลายด้าน ตั้งแต่การจัดหาเงินทุน การดำเนินโครงการ ไปจนถึงการขออนุญาตต่าง ๆ”
### ขั้นตอนถัดไป
กระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ดังกล่าวจะใช้เวลาสูงสุด 5 ปี โดยทีมเทคนิคจะประเมินความเหมาะสมด้านสิ่งแวดล้อม วิศวกรรม และการเงินของโครงการรถไฟข้ามทวีปนี้
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/south-america-transcontinental-rail-2097141