ธนาคารกลางเยอรมันเรียกร้องให้นำทองคำสำรอง 1,200 ตัน/$130,000 ล้าน ในสหรัฐฯ กลับประเทศ  หวั่นทรัมป์ใช้ทรัพย์สินต่างชาติเป็นเครื่องมือทางการเมือง

11-6-2025

   ชาวเยอรมันเรียกร้องให้นำทองคำสำรองกลับประเทศ เหตุกังวลสหรัฐฯ ใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธทางการค้า Money Metals รายงานว่า ในช่วงที่สหรัฐอเมริกาใช้ดอลลาร์และการค้าเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากขึ้น หลายฝ่ายในเยอรมนีได้เรียกร้องให้ธนาคารกลางเยอรมนี (Bundesbank) เคลื่อนย้ายทองคำสำรองบางส่วนออกจากนิวยอร์กและนำกลับประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงจากการแทรกแซงของสหรัฐฯ

   เยอรมนีครอบครองทองคำสำรองใหญ่เป็นอันดับสองของโลก จำนวน 3,352 ตัน โดยประมาณ 1,200 ตัน มูลค่าราว 130,000 ล้านดอลลาร์ ถูกเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก

   ธนาคารกลางเยอรมนีเลือกที่จะเก็บทองคำจำนวนมากไว้ที่นิวยอร์กเพื่อให้ห่างไกลจากสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น บทความในนิตยสาร Fortune ระบุว่า "ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของประเทศกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ค้ำจุนระเบียบโลกตะวันตกมาโดยตลอด ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นสถานที่เก็บรักษาสินทรัพย์ที่เหมาะสมที่สุด"

    อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันที่สหรัฐอเมริกาใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือทางนโยบายต่างประเทศอย่างเข้มข้น ความชาญฉลาดของการเก็บทองคำเยอรมันไว้ที่นิวยอร์กไม่ได้ชัดเจนอีกต่อไป เพราะไม่มีอะไรหยุดยั้งสหรัฐฯ จากการกักทองคำสำรองของเยอรมนีเป็นตัวประกันเพื่อผลประโยชน์ของตนเองได้

   มาร์คัส เฟอร์เบอร์ สมาชิกรัฐสภายุโรปได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบทองคำของเยอรมนีเมื่อเร็วๆ นี้ โดยกล่าวว่า "ผมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบสำรองทองคำของเยอรมนีเป็นประจำ ตัวแทนอย่างเป็นทางการของธนาคารกลางเยอรมนีต้องนับแท่งทองคำและบันทึกผลการตรวจสอบด้วยตนเอง"

   ต่อมาเขาได้อธิบายจุดยืนว่า "ทรัมป์เป็นคนที่คาดเดาได้ยาก และไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสักวันหนึ่งเขาอาจคิดวิธีการสร้างสรรค์ในการจัดการกับสำรองทองคำของต่างประเทศ นโยบายของธนาคารกลางเยอรมนีเกี่ยวกับสำรองทองคำต้องสะท้อนความเป็นจริงทางภูมิรัฐศาสตร์ใหม่"

   มีการเรียกร้องในลักษณะคล้ายกันให้ตรวจสอบสำรองทองคำของสหรัฐฯ ที่เก็บไว้ที่ฟอร์ต น็อกซ์ โดยสมาชิกรัฐสภา 4 คนได้เสนอร่างกฎหมายการตรวจสอบทองคำอย่างครอบคลุม

   ขณะเดียวกัน สหพันธ์ผู้เสียภาษีเยอรมันได้ส่งจดหมายถึงธนาคารกลางเมื่อเร็วๆ นี้ เรียกร้องให้นำทองคำของเยอรมนีกลับประเทศ โดยระบุว่า "ทรัมป์ต้องการควบคุมเฟด ซึ่งหมายถึงการควบคุมสำรองทองคำของเยอรมนีในสหรัฐฯ ด้วย นี่เป็นเงินของเรา ควรนำกลับบ้าน"

   ธนาคารกลางเยอรมนียังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการส่งทองคำกลับประเทศ และยังคงสนับสนุนเฟดในฐานะผู้ดูแลสินทรัพย์ของตนอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่านักการธนาคารกลางเยอรมันจะรู้สึกสบายใจกับสถานการณ์นี้เป็นการส่วนตัว

แนวโน้มการส่งทองคำกลับประเทศทั่วโลก

เยอรมนีไม่ใช่ประเทศเดียวที่คิดว่าทองคำของตนอาจปลอดภัยกว่าหากเก็บไว้ในประเทศ

ตามการสำรวจของสภาทองคำโลกในปี 2023 ธนาคารกลาง "จำนวนมาก" แสดงความกังวลเกี่ยวกับการถูกคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ และประเทศตะวันตกอื่นๆ อายัดทองคำและเงินสำรองต่างประเทศของรัสเซียเกือบครึ่งหนึ่งจากมูลค่า 650,000 ล้านดอลลาร์ ภายหลังการรุกรานยูเครน ตามข้อมูลของสภาทองคำโลก ธนาคารที่เข้าร่วมการสำรวจร้อยละ 68 ระบุว่ามีแผนจะเก็บสำรองทองคำไว้ภายในพรมแดนของประเทศตน เพิ่มขึ้นจาก 50% ในปี 2020

เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางรายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อบอกกับรอยเตอร์ว่า "เราเคยเก็บทองคำไว้ในลอนดอน... แต่ตอนนี้เราได้โอนกลับประเทศของเราเพื่อถือไว้เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและเพื่อความมั่นคง"

เมื่อปีที่แล้ว อินเดียได้ส่งทองคำกลับประเทศ 100 ตัน

มีการคาดการณ์ว่าประเทศอื่นๆ อาจย้ายทองคำและสินทรัพย์อื่นออกจากสหรัฐอเมริกาภายหลังการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย แต่เป็นเรื่องยากที่จะยืนยันได้เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณทองคำในห้องนิรภัยของตน

แนวโน้มการส่งทองคำกลับประเทศเริ่มขึ้นนานก่อนที่ชาติตะวันตกจะคว่ำบาตรรัสเซีย ในปี 2019 โปแลนด์ได้นำทองคำกลับประเทศ 100 ตัน ฮังการีและโรมาเนียก็ส่งทองคำสำรองบางส่วนกลับประเทศในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ในช่วงฤดูร้อนปี 2017 เยอรมนีดำเนินโครงการส่งทองคำสำรองกลับประเทศประมาณครึ่งหนึ่ง ในปี 2015 ออสเตรเลียเริ่มดำเนินการนำเงินสำรองครึ่งหนึ่งกลับประเทศ เนเธอร์แลนด์และเบลเยียมก็ริเริ่มโครงการส่งทองคำกลับประเทศเช่นกัน

 ความสำคัญของการถือครองทองคำที่ปลอดจากความเสี่ยงจากคู่สัญญา

แนวโน้มการส่งทองคำกลับประเทศนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการถือครองทองคำกายภาพที่ปราศจากความเสี่ยงจากคู่สัญญา

หากคุณเก็บทองคำและเงินไว้กับบุคคลที่สาม คุณอาจสูญเสียโลหะมีค่าของคุณจากการโจรกรรม การฉ้อโกง หรือเหตุสุดวิสัย แน่นอนว่าคุณอาจสูญเสียเงินและทองคำที่เก็บไว้ในบ้านด้วยเหตุผลเดียวกัน (ยกเว้นการฉ้อโกง) ดังนั้นคุณต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงจากการใช้บริการเก็บรักษาของบุคคลที่สามกับการเก็บโลหะมีค่าจำนวนมากไว้ที่บ้าน

----

IMCT NEWS

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/06/08/germans-demand-bring-our-gold-home-004113