จีนเผชิญความวิตกวิกฤตการเงินรถยนต์ไฟฟ้า

Thailand
จีนเผชิญความวิตกเพิ่มขึ้นต่อวิกฤตการเงินในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ท่ามกลางสงครามราคา
11-6-2025
คู่ค้าทางการค้าของจีนมักกล่าวหาว่าจีนทุ่มตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ราคาถูกสู่ตลาดโลก แต่ทุกวันนี้ ข้อกล่าวหาในลักษณะเดียวกันเริ่มเกิดขึ้นภายในประเทศจีนเอง ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเงินในอุตสาหกรรม
หนังสือพิมพ์ทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน People's Daily ได้ตีพิมพ์บทความแสดงความคิดเห็นเมื่อวันจันทร์ โดยใช้ชื่อว่า “สงครามราคาของอุตสาหกรรมยานยนต์ไม่มีจุดหมายและไม่มีอนาคต”
“สงครามราคาที่ไร้ระเบียบกดดันกำไรในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่ธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอุตสาหกรรมโดยรวม และเสี่ยงต่อการลดรายได้ของแรงงาน” บทความระบุ
BYD กลายเป็นเป้าหลักของเสียงวิจารณ์ หลังประกาศลดราคารถหลายรุ่นเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม โดยบางรุ่นลดราคาสูงถึง 34% รถที่ถูกที่สุดของบริษัทอย่าง Seagull มินิแฮทช์แบ็ก ขณะนี้มีราคาประมาณ 7,700 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 280,000 บาท) จากเดิมประมาณ 10,000 ดอลลาร์
สงครามราคาที่รุนแรงนี้ทำให้ผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมรถยนต์หลายคนออกมาเตือน โดยประธานบริษัท Great Wall Motor ถึงกับกล่าวว่าอุตสาหกรรมนี้กำลังอยู่ในภาวะ “ไม่แข็งแรง”
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อจีน Sina Finance เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม นาย เว่ย เจี้ยนจวิน ประธาน Great Wall Motor เปรียบเทียบสถานการณ์ในอุตสาหกรรมรถยนต์กับภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่กำลังซบเซา และกล่าวถึงอดีตบริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่อย่าง Evergrande ที่ล้มละลาย
“วิกฤตแบบ Evergrande ได้เกิดขึ้นแล้วในอุตสาหกรรมรถยนต์ เพียงแต่มันยังไม่ระเบิดออกมาเท่านั้น” เว่ยกล่าว
ขณะเดียวกัน สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ก็ออกแถลงการณ์เตือนบริษัทต่าง ๆ ไม่ให้ “ขายตัดราคา” ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต โดยในถ้อยแถลงนั้นมีนัยวิจารณ์ไปยัง BYD อย่างชัดเจน
“ผู้ผลิตรถยนต์รายหนึ่งเป็นผู้จุดชนวนสงครามลดราคาครั้งใหญ่ และทำให้บริษัทอื่น ๆ พากันทำตาม จนก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในอุตสาหกรรม” สมาคมฯ ระบุ
ทางด้าน BYD ออกมาตอบโต้คำพูดของเว่ย โดยมองว่าเป็นการ “สร้างความตื่นตระหนกเกินเหตุ” พร้อมยืนยันว่า บริษัทเชื่อมั่นใน การแข่งขันที่เป็นธรรม ในสัญญาณของความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตลาดรถยนต์ ผู้ค้ารถยนต์มือสองในปักกิ่งเปิดเผยกับ CNBC ถึงปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “รถมือสองไมล์ศูนย์” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ผู้ผลิตรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายใช้เพื่อเพิ่มตัวเลขยอดขายให้ดูสูงขึ้น
วิธีการคือ รถยนต์จะถูกจดทะเบียนและติดป้ายทะเบียน จากนั้นจะถูกบันทึกว่า “ขายแล้ว” ทั้งที่จริง ๆ ยังไม่เคยถูกขับออกจากโชว์รูมเลย คุณหม่า (Ma) ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าเขารู้สึกกังวลว่า การแข่งขันที่รุนแรงเช่นนี้จะนำไปสู่อะไรในที่สุด
เขาเห็นผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้ ก็ลังเลที่จะใช้จ่ายอยู่แล้ว “เมื่อราคาลดลงขนาดนี้ ผู้ซื้อจำนวนมากอาจเลือกที่จะรอดูสถานการณ์ก่อน” เขากล่าว
ที่มา CNBC
© Copyright 2020, All Rights Reserved