.

EU-จีน เผชิญทางตัน เจรจาความสัมพันธ์ใหม่ติดขัดท่ามกลางแรงกดดันภูมิรัฐศาสตร์
28-5-2025
SCMP- ความพยายามของจีนในการฟื้นความสัมพันธ์กับยุโรปยังคงเผชิญอุปสรรคสำคัญ ท่ามกลางภาวะชะงักงันที่ปักกิ่งไม่น่าจะยอมรับข้อเรียกร้องหลักของยุโรป ทั้งในประเด็นการแทรกแซงสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ กลับสู่ทำเนียบขาวเมื่อต้นปี ความสัมพันธ์ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ เริ่มสั่นคลอนอย่างชัดเจน ล่าสุดผลสำรวจประชาธิปไตยขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมกว่า 100,000 คนในยุโรปพบว่า “จีน” มีคะแนนนิยมแซงหน้าสหรัฐฯ ในเกือบทุกประเทศ ยกเว้นโปแลนด์ ฮังการี และลิทัวเนีย ขณะที่ทรัมป์เองยังกล่าวกับสื่อว่า “สหภาพยุโรปในหลายด้านร้ายกว่าจีนเสียอีก”
ภายใต้บรรยากาศความเปลี่ยนแปลงนี้ หลายฝ่ายคาดว่ายุโรปจะหันมาฟื้นสัมพันธ์กับจีน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในวาระแรกของทรัมป์เมื่อปี 2017 ผู้นำสหภาพยุโรปแสดงท่าทีเปิดกว้างต่อการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนกับจีน ล่าสุด อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และอันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรป เตรียมเดินทางเยือนปักกิ่งเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะที่จีนเองก็ยกเลิกคว่ำบาตรสมาชิกสภายุโรปบางราย แม้ยังคงจำกัดนักวิจัยและผู้แทนระดับประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้ากลับเป็นไปอย่างเชื่องช้า เจ้าหน้าที่อียูยอมรับว่าการเจรจากับจีนยังมีข้อจำกัดและขาดความคืบหน้า โดยเฉพาะสองประเด็นหลักที่ยุโรปยืนยัน ได้แก่ การเรียกร้องให้จีนแทรกแซงเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อลดกำลังการผลิตส่วนเกินและป้องกันการเบี่ยงเบนทางการค้าจากผลกระทบของภาษีสหรัฐฯ
ในการประชุมฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-อียูที่ปักกิ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม เจ้าหน้าที่อียูทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างเรียกร้องให้จีนแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อสงครามยูเครน พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินของจีนที่ทำให้สินค้าราคาถูกทะลักสู่ยุโรป สร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตท้องถิ่นและกระตุ้นกระแสประชานิยมในยุโรป
ฝ่ายจีนตอบโต้โดยยืนยันว่า วิกฤตยูเครนไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ และแสดงความกังวลต่อมาตรการสอบสวนและจำกัดบริษัทจีนของอียู พร้อมปฏิเสธว่าประเด็นเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาหลักในความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์จีน-ยุโรปถูกมองว่าเป็น “บทสนทนาของคนหูหนวก” ที่แต่ละฝ่ายไม่สามารถตกลงกันในประเด็นสำคัญ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายเตรียมเดินหน้าการทูตเชิงรุกก่อนการประชุมสุดยอดเดือนกรกฎาคมนี้ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศจีนจะเยือนบรัสเซลส์และอียูจะจัดประชุมสิทธิมนุษยชน แม้ที่ผ่านมามักไร้ความคืบหน้า
เอกอัครราชทูตอียูประจำจีนถึงขั้นขู่ว่าหากไม่มีความคืบหน้า อาจยกเลิกการเจรจาเศรษฐกิจระดับสูง ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปก็พร้อมใช้มาตรการโควตาและภาษี หากพบว่าสินค้าจีนถูกเบี่ยงเบนจากตลาดสหรัฐฯ มาสู่ยุโรป
นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าข้อเรียกร้องของยุโรปอาจเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะเมื่อจีนจำเป็นต้องหาตลาดใหม่รองรับกำลังผลิตส่วนเกิน ขณะที่สหรัฐฯ ปิดตลาดสินค้าหลายประเภท
ไมเคิล เพ็ตติส นักวิชาการด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ระบุว่าปัญหาเกินดุลการค้าของจีนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง และการเรียกร้องให้จีน “ควบคุมตนเอง” เท่ากับขอให้จีนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น
ขณะเดียวกัน ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนล่าสุดที่ลดภาษีสินค้าบางรายการ อาจช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อยุโรปชั่วคราว แต่ก็อาจลดอิทธิพลต่อปักกิ่งลงด้วย
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยุโรปกำลังเผชิญทางเลือกที่ยากลำบากระหว่างสองขั้วมหาอำนาจ โดยขาดความเป็นอิสระด้านความมั่นคงและขีดความสามารถทางเศรษฐกิจจะยิ่งเปราะบางต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ในขณะที่สหรัฐฯ ต้องการให้พันธมิตรเลือกข้างและตัดบริษัทจีนออกจากห่วงโซ่อุปทาน จีนเองก็พยายามชูภาพลักษณ์เสถียรภาพและความคาดเดาได้เพื่อดึงดูดยุโรป แต่เจ้าหน้าที่อียูส่วนใหญ่ยังเชื่อว่า “ยุโรปต้องเลือกยุโรป” ไม่ใช่เลือกข้างมหาอำนาจใด
นักวิเคราะห์ชี้ว่า แนวคิดที่ว่าทรัมป์จะผลักดันให้ยุโรปหันไปซบจีนแทบเป็นไปไม่ได้ในเชิงเศรษฐกิจ เพราะโครงสร้างการค้าโลกปัจจุบัน สหรัฐฯ เป็นผู้ซื้อหลัก ขณะที่จีนเป็นผู้ขายหลัก ซึ่งไม่อาจแทนที่กันได้
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3311804/there-are-limits-problems-chinas-efforts-patch-things-europe?module=feature_package&pgtype=homepage
Illustration: Lau Ka-kuen