อิสราเอลปฏิเสธว่าเนทันยาฮูขู่จะโจมตีอิหร่าน

อิสราเอลปฏิเสธรายงานของ New York Times ว่าเนทันยาฮูขู่จะโจมตีอิหร่านเพื่อขัดขวางการเจรจานิวเคลียร์
29-5-2025
อิสราเอลได้ออกมาปฏิเสธรายงานจากหนังสือพิมพ์ New York Times ที่อ้างว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ขู่จะขัดขวางการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างวอชิงตันและเตหะราน โดยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่าน พร้อมระบุว่าข่าวดังกล่าวเป็น “ข่าวเท็จ”
บทความที่ตีพิมพ์เมื่อวันพุธ อ้างถึงเจ้าหน้าที่นิรนามซึ่งระบุว่าผู้นำอิสราเอลกังวลว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ อาจอนุญาตให้อิหร่านคงความสามารถในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมไว้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อิสราเอลคัดค้านอย่างรุนแรง รายงานยังระบุว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า อิสราเอลอาจสามารถเปิดฉากโจมตีอิหร่านได้ภายในเวลาเพียง 7 ชั่วโมง แม้จะมีข้อตกลงทางการทูตก็ตาม
สำนักงานของเนทันยาฮูตอบโต้รายงานดังกล่าวด้วยถ้อยคำสั้น ๆ ว่า: “ข่าวปลอม”
ตามรายงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่อิสราเอล รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการยุทธศาสตร์ รอน เดอร์เมอร์ และหัวหน้าหน่วยมอสสาด เดวิด บาร์เนีย ได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เช่น ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลาง สตีฟ วิทคอฟฟ์ และผู้อำนวยการ CIA จอห์น แรตคลิฟ เพื่อแสดงความกังวลต่อทิศทางของการเจรจา
การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่กำลังดำเนินอยู่นั้นมีเป้าหมายเพื่อ ป้องกันไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมกับยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ทรัมป์บังคับใช้ในปี 2018 ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจอิหร่านใกล้ล่มสลาย
หนึ่งในประเด็นที่เป็นอุปสรรคสำคัญคือ ข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ให้อิหร่าน ยุติโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ซึ่งเตหะรานปฏิเสธ โดยสหรัฐฯ และพันธมิตรแสดงความกังวลว่า การเสริมสมรรถนะอาจนำไปสู่การผลิตยูเรเนียมเกรดอาวุธได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อวันจันทร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ คริสตี โนม ได้พูดคุยกับเนทันยาฮู โดยเน้นถึงความจำเป็นของ “ความเป็นเอกภาพและความอดทน” ในกระบวนการเจรจา พร้อมถ่ายทอดสารจากทรัมป์ว่า “สิ่งสำคัญคือเราต้องร่วมมือกันและปล่อยให้กระบวนการนี้ดำเนินไป”
อิสราเอลไม่ได้เข้าร่วมการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านโดยตรง แม้จะมีวาทกรรมแข็งกร้าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้จัดการเจรจาหลายรอบที่โอมาน ซึ่งต่างฝ่ายต่างมองว่ามีความคืบหน้า วิทคอฟฟ์ระบุว่า แม้ว่าทางวอชิงตันต้องการทางออกทางการทูต แต่ก็มี “เส้นแดงที่ชัดเจนมาก” ว่า “แม้แต่ 1% ของความสามารถในการเสริมสมรรถนะก็ยอมรับไม่ได้”
ปัจจุบัน อิหร่านเสริมสมรรถนะยูเรเนียมถึงระดับ 60% ซึ่งสูงกว่าขีดจำกัด 3.67% ที่ระบุไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่ถูกยกเลิกไป และเข้าใกล้ระดับที่สามารถใช้ทำอาวุธได้ เตหะรานยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีเป้าหมายเพื่อสันติเท่านั้น แม้จะมีคำเตือนจากสหรัฐฯ และอิสราเอลถึงความเป็นไปได้ของ “จุดเปลี่ยน” ทางนิวเคลียร์
รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน อับบาส อารัคชี กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ให้รื้อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน “ไม่สมจริง” และยืนยันว่าอิหร่านจะดำเนินการเสริมสมรรถนะต่อไป ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีข้อตกลงก็ตาม
IMCT News