ปัญญาประดิษฐ์อาจกำจัดงานระดับเริ่มต้นในสายงานออฟฟิศครึ่งหนึ่งภายใน 5 ปี

30-5-2025

   ซีอีโอของบริษัทวิจัย AI สัญชาติอเมริกัน Anthropic นายดาริโอ อาโมเดอี (Dario Amodei) ได้เตือนว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจเข้ามาแทนที่งานระดับเริ่มต้นในสายงานออฟฟิศ (white-collar jobs) ถึงครึ่งหนึ่งภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ในคำแถลงต่อ Axios เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อาโมเดอี ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Anthropic และอดีตผู้บริหารของ OpenAI กล่าวว่า เขาหวังที่จะกระตุ้นให้รัฐบาลสหรัฐฯ และนักพัฒนา AI ตระหนักและเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบจากระบบอัตโนมัติที่กำลังมาอย่างรวดเร็ว โดยเตือนว่าความก้าวหน้าของ AI อาจผลักให้อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง 10-20% ภายใน 1 ถึง 5 ปีข้างหน้า

   เขาอ้างว่าบริษัทพัฒนา AI หลายแห่งกำลังทำงานบนระบบที่สามารถเข้ามาแทนที่แรงงานในสาขาเทคโนโลยี การเงิน กฎหมาย การให้คำปรึกษา และสายงานออฟฟิศอื่น ๆ โดยเฉพาะตำแหน่งระดับเริ่มต้น

   อาโมเดอีเน้นว่าทั้งสาธารณชนและนักการเมืองยัง “ไม่ตระหนัก” ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น และกล่าวว่าบริษัทต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ภาครัฐจำเป็นต้องเลิก “พูดให้ดูดี” เกินความจริงเกี่ยวกับอนาคต โดยเฉพาะต่อกลุ่มแรงงานรุ่นใหม่

   เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รายงานของมูลนิธิ Linux Foundation ที่ได้รับการว่าจ้างโดย Meta ระบุว่า AI แบบโอเพ่นซอร์สกำลังพลิกโฉมเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ นวัตกรรม การประหยัดต้นทุน และการเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตาม อาโมเดอีแสดงความกังวลว่าผู้คนอาจยังคงไม่เข้าใจถึงภัยคุกคามจากการถูกแทนที่โดย AI โดยเฉพาะหากรัฐบาลสหรัฐฯ เลือกที่จะนิ่งเฉยเพราะกลัวว่าจะทำให้แรงงานตื่นตระหนก หรือกลัวว่าจะแพ้จีนในสนามเทคโนโลยี

    เขากล่าวว่า เร็ว ๆ นี้ “แทบจะชั่วข้ามคืน” ผู้นำธุรกิจจะเห็นถึงการประหยัดต้นทุนจากการใช้ AI แทนแรงงานมนุษย์ และจะเปลี่ยนผ่านแบบ “คราวเดียวพร้อมกัน” พวกเขาจะหยุดการเปิดรับพนักงานใหม่หรือทดแทนตำแหน่งว่าง และแทนที่แรงงานมนุษย์ด้วยระบบอัตโนมัติ

   อาโมเดอีได้เสนอแผนรับมือหลายแนวทาง เช่น การจัดทำดัชนีเฉพาะกิจเพื่อติดตามผลกระทบของ AI ต่ออาชีพต่าง ๆ และการจัดเวทีสรุปข้อมูลให้กับสมาชิกรัฐสภาเพื่อสร้างความตระหนัก เขายังเสนอแนวคิด “ภาษีโทเคน” หรือระบบที่เก็บภาษีจากรายได้ที่เกิดจาก AI เพื่อนำไปกระจายสู่สังคมโดยรัฐบาล

   คำเตือนของเขาเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งเริ่มปลดพนักงานจำนวนมาก ซึ่งบางคนเชื่อว่าเป็นการเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจาก AI

   เมื่อต้นเดือนนี้ ไมโครซอฟต์ปลดพนักงานประมาณ 6,000 คน ส่วนใหญ่เป็นวิศวกร ทั้งที่รายงานผลประกอบการออกมาว่าแข็งแกร่ง Walmart ได้ตัดตำแหน่งในสายงานบริหารไป 1,500 ตำแหน่งเพื่อ “ทำให้การดำเนินงานเรียบง่ายขึ้น” ขณะที่ Crowdstrike บริษัทไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในเท็กซัส ปลดพนักงาน 500 คน โดยอ้างว่า “AI กำลังพลิกโฉมทุกอุตสาหกรรม”

RT