ตลาดฟิวเจอร์สเซี่ยงไฮ้เปิดทางให้นักลงทุนและโบรกเกอร์ต่างชาติเข้าถึงสัญญาทองคำและเงินโดยตรง ขณะที่จีนผลักดันอำนาจการตั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์

29-5-2025

   ตลาดฟิวเจอร์สเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Futures Exchange) จะเปิดตลาดฟิวเจอร์สในประเทศจีนให้กับนักลงทุนและโบรกเกอร์ต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง ตามที่ตลาดฟิวเจอร์สได้ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

   SHFE ได้เผยแพร่ข้อเสนอ 34 ข้อครอบคลุมกิจกรรมการซื้อขายหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การซื้อขายและป้องกันความเสี่ยงด้วยออปชันทองคำและเงิน ไปจนถึงฟิวเจอร์สโลหะมีค่า โดยตลาดระบุว่าจุดประสงค์คือ “การเปิดให้ผู้เข้าร่วมต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่” และสนับสนุนการทำให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสากล

“ประกาศครั้งนี้เปรียบเสมือนการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญสำหรับการเปิดตลาด SHFE ทั้งหมด” ไทเกอร์ ชิ ซีอีโอของ BANDS Financial กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ “การเปิดให้ นักลงทุนต่างชาติ เข้าถึงผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ SHFE จะเป็นไปอย่างรวดเร็วจากนี้เป็นต้นไป”

   ข้อเสนอเหล่านี้รวมถึงการอนุญาตให้โบรกเกอร์และผู้ค้าต่างชาติเข้ามาซื้อขายในตลาดโดยตรง แทนที่จะต้องผ่านตัวกลางในประเทศเหมือนปัจจุบัน นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมยังสามารถวางหลักประกันด้วยดอลลาร์สหรัฐหรือสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ ได้ด้วย ข้อเสนอกฎระเบียบฉบับร่างเหล่านี้เปิดให้สาธารณชนแสดงความคิดเห็นจนถึงวันที่ 4 มิถุนายนนี้

   ข้อเสนอของ SHFE ถือเป็นก้าวล่าสุดในยุทธศาสตร์ของจีนที่ต้องการเพิ่มอิทธิพลในการค้าขายและตั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองและเงิน ให้สอดคล้องกับบทบาทอันโดดเด่นในฐานะผู้ผลิตและผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้

   เมื่อวันที่ 21 เมษายน ธนาคารประชาชนจีน (PBoC) และหน่วยงานรัฐบาลอีกสามแห่งได้ประกาศแผนลงทุนเพื่อส่งเสริมการทำให้ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้เป็นสากล รวมถึงการสร้างคลังสินค้าสำหรับการส่งมอบข้ามพรมแดน เพื่อเตรียมให้ SGE สามารถแข่งขันกับตลาดโลหะลอนดอน (LME) ในการควบคุมราคาสินค้าโลหะทั่วโลก

   “ธนาคารประชาชนจีนและอีกสามหน่วยงานร่วมกันออก ‘แผนปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างความสะดวกในการให้บริการทางการเงินข้ามพรมแดนในศูนย์การเงินนานาชาติเซี่ยงไฮ้’” รายงานจาก Jinshi Data ระบุ “แผนดังกล่าวพูดถึงการเพิ่มศักยภาพของแพลตฟอร์มทางการเงินหลักในการจัดสรรทรัพยากรทั่วโลก รวมถึงการเตรียมความพร้อมขั้นสูงสำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินนานาชาติ โดยมีเป้าหมายสร้างแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับการจัดสรรทรัพยากรการเงินทั่วโลกและส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในตลาดการเงินของจีน”

   “แผนนี้ยังสนับสนุนการอนุญาตให้ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้และสถาบันอื่น ๆ ทำงานร่วมกับตลาดต่างชาติ ขยายการใช้อ้างอิงราคาหยวนในตลาดหลักสากล” รายงานระบุ “แผนยังสำรวจความเป็นไปได้ของการส่งมอบสินค้าระหว่างประเทศที่ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ รวมถึงการสร้างคลังสินค้าต่างประเทศสำหรับการเก็บโลหะ”

   การประกาศของ PBoC ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะเน้นสินค้าชนิดใดเป็นพิเศษ แต่ตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้หลัก ๆ แลกเปลี่ยนโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน และแพลทินัม แม้ว่าจีนจะเป็นผู้บริโภคโลหะมีค่ารายใหญ่ที่สุดในโลก แต่การซื้อขายส่วนใหญ่มักตั้งราคาตามตลาดสากล อย่างไรก็ตาม ปักกิ่งได้เริ่มขยับตัวเพื่อใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของตัวเองในการเพิ่มอำนาจการตั้งราคาและอิทธิพลในตลาดโลหะ

   เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าจีนกำลังดำเนินมาตรการ “เพื่อกำหนดราคาสินค้าโลหะอุตสาหกรรมจำนวนมากที่ผลิตและบริโภคในประเทศ โดยพยายามดึงดูดบริษัทต่างชาติเข้ามาซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดโลหะทั่วโลกเกิดการแตกแยก”

   ถ้าแผนนี้สำเร็จ สัญญาซื้อขายของเซี่ยงไฮ้จะกลายเป็นมาตรฐานอ้างอิง “และทำให้ระบบการตั้งราคาสินค้าโลหะอุตสาหกรรมที่มีมาตั้งแต่ปี 1877 ซึ่งก่อตั้งตลาด LME ต้องเปลี่ยนแปลงไป”

   ตลาดฟิวเจอร์สเซี่ยงไฮ้จะ “ทำให้บริษัทจีนไม่จำเป็นต้องอ้างอิงราคาสัญญาของตัวเองกับราคา LME และยังบังคับให้บริษัทต่างชาติต้องเข้ามาซื้อขายใน SHFE เพื่อให้มีอิทธิพลต่อราคาที่อ้างอิงในสัญญาของพวกเขา ส่งผลให้การควบคุมตลาดเปลี่ยนจากฝั่งตะวันตกมาเป็นจีน” รายงานระบุ

   หวัง เฟิงไห่ ผู้จัดการทั่วไปของ SHFE กล่าวกับสื่อของทางการจีนในเดือนมิถุนายนว่า ประเทศจีนจำเป็นต้องทำให้ตลาดเปิดกว้างมากขึ้น หากต้องการมีอิทธิพลในการตั้งราคาสินค้าโลหะ “มีเพียงการเปิดตลาดให้ต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมเท่านั้น ที่จะช่วยให้เราได้ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาร่วมตั้งราคาและเพิ่มอิทธิพลในตลาดราคา”

   หวังยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ความสามารถในการส่งมอบข้ามพรมแดนถือเป็นจุดเน้นสำคัญของ SHFE โดยตลาดกำลังเร่งสร้างคลังสินค้านอกประเทศเพื่อเก็บโลหะที่เกี่ยวข้องกับสัญญาของตลาด

Kitco

--------------------------
Gold Mountain เครือยักษ์ใหญ่เหมืองแร่จีน เปิดกองทุนทองคำรุกตลาดฮ่องกง ชี้ทองดันราคาพุ่ง $4,000 ปีนี้

29-5-2025

   Gold Mountain Asset Management บริษัทในเครือต่างประเทศของกลุ่มซีจิ้นไมนิ่ง (Zijin Mining Group) ยักษ์ใหญ่ด้านเหมืองแร่ของจีน ได้เปิดกองทุนที่เน้นลงทุนในทองคำและทองแดงให้กับนักลงทุนมืออาชีพในฮ่องกง เพื่อตอบสนองต่อกระแสความนิยมที่กำลังเพิ่มขึ้นของโลหะทั้งสองชนิด

   โดยก่อนหน้านี้ บริษัทในเครือของหนึ่งในผู้ผลิตทองคำและทองแดงรายใหญ่ที่สุดของจีน จำกัดการระดมทุนเฉพาะจากบริษัทในเครือและพนักงานของกลุ่มเท่านั้น

"เรามีมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ เนื่องจากราคาจะได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่และความขัดแย้งทางการค้าที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข" ลิซ่า หลิว ซา กรรมการผู้จัดการและผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของ Gold Mountain ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกง กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

   หลิวคาดการณ์ว่าทองคำอาจพุ่งแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในปีนี้ อันเป็นผลมาจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนและธนาคารกลางทั่วโลกต่อโลหะมีค่าชนิดนี้ ล่าสุดราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% แตะระดับ 3,223.55 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันจันทร์ หลังจากที่ Moody's Ratings ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐฯ จาก Aaa เหลือ Aa1 เมื่อวันศุกร์ โดยระบุถึงความล้มเหลวของรัฐบาลหลายชุดที่ไม่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณได้ พร้อมกันนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ปรับตัวลดลงด้วย

   ด้านโจนี เตเวส นักยุทธศาสตร์จากธนาคารเพื่อการลงทุน UBS ของสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งประจำอยู่ที่สิงคโปร์ ก็มีมุมมองบวกต่อทองคำเช่นกัน โดยเชื่อว่าราคาทองจะสูงถึง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้ และอาจแตะ 3,600 ดอลลาร์สหรัฐภายในกลางปี 2026 โดยอ้างถึงปัจจัยความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนด้านภาษีศุลกากร และการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

   หลิวกล่าวว่าราคาทองคำได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐาน โดยชี้ให้เห็นว่าจำนวนเหมืองที่ดำเนินการทั่วโลกและคุณภาพแร่ของเหมืองเหล่านั้นลดลงเนื่องจากการขุดเจาะมาอย่างยาวนานและการลงทุนที่ไม่เพียงพอ

   "แหล่งสำรวจที่มีศักยภาพสูงทั้งหมดได้รับการประเมินไปแล้ว" หลิว ซึ่งเป็นวิศวกรธรณีวิทยาโดยการฝึกอบรม กล่าว "การค้นพบแหล่งใหม่ๆ ทำได้ยากขึ้น และ [ผู้ประกอบการเหมือง] ไม่สามารถรักษาระดับปริมาณการผลิตประจำปีได้"

   กองทุน Zijin Global Fund ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนที่บริหารโดย Gold Mountain ปัจจุบันมีสินทรัพย์ประมาณ 180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

   กองทุนนี้ก่อตั้งโดยซีจิ้นไมนิ่งในปี 2013 เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจต่างประเทศควบคู่ไปกับการเข้าซื้อกิจการเหมืองแร่ ปัจจุบันเปิดให้นักลงทุนมืออาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสำนักงานครอบครัวและบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่มีสินทรัพย์อย่างน้อย 8 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (1.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามที่หลิวเปิดเผย

   กองทุนดังกล่าวสร้างผลตอบแทนได้ 9.6% ในปีที่แล้ว และ 18% ในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ หลิวกล่าวเพิ่มเติม แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยผลตอบแทนเฉลี่ยนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง กองทุนภายใต้การบริหารของ Gold Mountain จัดการสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทเหมืองแร่ที่จดทะเบียนในอเมริกาเหนือ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และฮ่องกง หากนับรวมกิจกรรมภายใต้คำสั่งบริหารหุ้นเหมืองแร่ที่ได้รับมอบหมายจากซีจิ้นไมนิ่ง สินทรัพย์ภายใต้การบริหารทั้งหมดจะสูงถึง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

   นอกจากนี้ Gold Mountain ยังให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทอื่นๆ สำหรับการก่อสร้างและขยายเหมืองในต่างประเทศผ่านสินเชื่อส่วนบุคคล โดยรับทองคำที่ผลิตได้เป็นผลตอบแทน

   หลิวยังมีมุมมองเชิงบวกต่อทองแดงเช่นกัน โดยอ้างถึงข้อจำกัดด้านอุปทานจากการลงทุนที่ไม่เพียงพอและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ซึ่งขับเคลื่อนโดยการประมวลผลแบบคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์

   เมื่อเดือนที่แล้ว ซีจิ้นไมนิ่งประกาศแผนการจัดโครงสร้างสินทรัพย์เหมืองทองคำในต่างประเทศภายใต้ Zijin Gold International ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2007 และเตรียมนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

  บริษัทระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวจะ "สร้างมูลค่าที่มากขึ้น" ให้กับผู้ถือหุ้น ผ่านการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ท่ามกลางราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หลิวปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า Gold Mountain จะถูกรวมอยู่ในสินทรัพย์ที่จะแยกตัวออกไปหรือไม่

   ในปีที่ผ่านมา ซีจิ้นไมนิ่งรายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 52% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 32,000 ล้านหยวน (4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากปริมาณการผลิตและราคาทองคำที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้น 22% นับตั้งแต่ต้นปี โครงการทองแดงในต่างประเทศของซีจิ้นไมนิ่งตั้งอยู่ในเซอร์เบีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เอริเทรีย และเปรู นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นเจ้าของเหมืองทองคำในโคลอมเบีย เปรู ออสเตรเลีย เซอร์เบีย ทาจิกิสถาน คีร์กีซสถาน ปาปัวนิวกินี ซูรินาม และกายอานา และอยู่ระหว่างการซื้อเหมืองแห่งหนึ่งในกานา

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.scmp.com/business/commodities/article/3310880/chinas-zijin-mining-opens-gold-and-copper-stock-fund-hong-kong-investors?module=perpetual_scroll_2_AI&pgtype=article

Photo: Edmond So