.

เส้นทางสายไหมข้ามแปซิฟิก สี จิ้นผิง เสริมแกร่งสัมพันธ์จีน-ละตินอเมริกา สู่พันธมิตรยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ
13-5-2025
สี จิ้นผิง เสริมแกร่งสัมพันธ์จีน-ละตินอเมริกา ผ่านฟอรัม CELAC ดันการค้าทะลุ 5 แสนล้านดอลลาร์ การเชื่อมโยงระหว่างจีนและละตินอเมริกาที่เคยห่างไกลกันทั้งทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สำนวน "จากจีนถึงเปรู" ที่เคยใช้เพื่ออธิบายความห่างไกลในอดีต ปัจจุบันได้กลายเป็นเส้นทางเดินเรือ ท่าเรือขนาดใหญ่ และเส้นทางโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงทั้งสองภูมิภาคข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก
การพัฒนาความสัมพันธ์อย่างรวดเร็วนี้เกิดขึ้นได้ด้วยกลไกสำคัญคือฟอรัมความร่วมมือระหว่างจีนกับประชาคมรัฐละตินอเมริกาและแคริบเบียน (China-CELAC Forum) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วภายใต้การริเริ่มของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยฟอรัมซึ่งเคยถูกเปรียบเป็นเพียง "ต้นกล้า" ได้เติบโตและหยั่งรากลึกอย่างมั่นคง กลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือใต้-ใต้ที่ดึงจีนและภูมิภาคละตินอเมริกาให้เข้ามาเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกันในหลากหลายมิติ
การประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 4 ของฟอรัมจีน-CELAC มีกำหนดจัดขึ้นในวันอังคารที่ปักกิ่ง โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะกล่าวในพิธีเปิดและประกาศแผนริเริ่มและมาตรการใหม่เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย
นายชิว เสี่ยวฉี ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลจีนด้านกิจการละตินอเมริกา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะส่งสารแห่งสันติภาพ การพัฒนา และความร่วมมือท่ามกลางความปั่นป่วนทั่วโลก พร้อมเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์จีน-ละตินอเมริกา
"ความปรารถนาร่วมกันของเราในการเป็นเอกราช การพัฒนา และการฟื้นฟูทำให้เรามีความใกล้ชิดกันมากขึ้น" ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงจุดร่วมระหว่างจีนและประเทศในละตินอเมริกาซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีความมุ่งมั่นทางการเมืองร่วมกัน เผชิญกับความท้าทายด้านการพัฒนาที่คล้ายคลึงกัน และสามารถเสริมจุดแข็งทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน
จีนและภูมิภาคละตินอเมริการวมกันครอบคลุมพื้นที่หนึ่งในห้าของโลก มีประชากรและขนาดเศรษฐกิจรวมกันประมาณหนึ่งในสี่ของโลก จึงเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตและศักยภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก
จุดเริ่มต้นสำคัญของความร่วมมือเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2557 เมื่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางไปยังบราซิลเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS และพบปะกับผู้นำประเทศละตินอเมริกาและแคริบเบียนเป็นครั้งแรก ซึ่งนำไปสู่การประกาศจัดตั้งฟอรัมจีน-CELAC อย่างเป็นทางการ โดยในการประชุมดังกล่าว สี จิ้นผิงได้วางหลักการชี้นำสำหรับความร่วมมือที่ครอบคลุม ซึ่งประกอบด้วยความเท่าเทียม ผลประโยชน์ร่วมกัน และการพัฒนาร่วมกัน
หกเดือนต่อมา การประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งแรกของฟอรัมได้จัดขึ้นที่ปักกิ่ง ทำให้วิสัยทัศน์ของแพลตฟอร์มความร่วมมือที่ครอบคลุมทั้ง 33 ประเทศในละตินอเมริกาและแคริบเบียนกลายเป็นความจริง นับเป็นจุดเริ่มต้นของระยะใหม่ในความสัมพันธ์จีน-ละตินอเมริกา ที่ความร่วมมือในระดับภูมิภาคมาเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างจีนกับแต่ละประเทศ
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาฟอรัมนี้ โดยให้แนวทางที่ชัดเจนในการประชุมระดับรัฐมนตรีแต่ละครั้ง ส่งผลให้ปัจจุบันฟอรัมนี้มีกลไกปฏิสัมพันธ์ที่หลากหลาย ทั้งการประชุมระดับรัฐมนตรี การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศ การประชุมผู้ประสานงาน และฟอรัมย่อยเฉพาะทางที่ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีดิจิทัลไปจนถึงการลดความยากจน
ความสำเร็จของความร่วมมือเห็นได้ชัดจากโครงการต่างๆ ทั่วภูมิภาค เช่น ท่าเรืออัจฉริยะชานกายในเปรู ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นท่าเรืออัจฉริยะแห่งแรกของอเมริกาใต้ ท่าเรือนี้ช่วยลดระยะเวลาการขนส่งข้ามแปซิฟิกได้เกือบหนึ่งในสาม ลดต้นทุนโลจิสติกส์ 20% และคาดว่าจะสร้างงานโดยตรงกว่า 8,000 ตำแหน่ง
ทั่วทั้งภูมิภาค มีการเปิดตัวโครงการโครงสร้างพื้นฐานจากจีนมากกว่า 200 โครงการ สร้างงานกว่า 1 ล้านตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นโครงการส่งไฟฟ้าแรงดันสูงพิเศษในบราซิล ทางหลวงที่สร้างโดยจีนในจาเมกา และโครงการดาวเทียมในโบลิเวียที่ช่วยให้ครัวเรือนกว่าครึ่งล้านเข้าถึงโทรทัศน์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ตัวเลขทางการค้าและการลงทุนยืนยันถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด การค้าระหว่างจีนและภูมิภาคนี้พุ่งสูงถึง 518,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากตัวเลขเมื่อทศวรรษที่แล้ว ขณะที่การลงทุนของจีนในภูมิภาคนี้ทะลุ 600,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2566 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่สี จิ้นผิงได้ตั้งไว้เมื่อปี 2557 ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับสองของละตินอเมริกาและแคริบเบียน และมีข้อตกลงการค้าเสรีในภูมิภาคนี้มากกว่าที่ใดนอกเอเชีย
ความสำเร็จของความร่วมมือทางการค้าเห็นได้ชัดจากกรณีของชิลี ซึ่งส่งออกเชอร์รี่คุณภาพสูงไปจีนคิดเป็นมูลค่า 3,570 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 51.4% จากปีก่อนหน้า โดยมากกว่า 90% ส่งไปยังจีน "ตลาดจีนสร้างผลกระทบเชิงบวกในชิลี สร้างงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวไปจนถึงการบรรจุภัณฑ์" เอร์นัน การ์เซส กัซมูริ ผู้ผลิตเชอร์รี่ชาวชิลีกล่าว
ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของสี จิ้นผิงยังเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยกระชับความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ทั่วแปซิฟิก ปัจจุบันมีประเทศกว่า 20 ประเทศในภูมิภาคเข้าร่วมกรอบความร่วมมือนี้ และ 10 ประเทศได้ลงนามในแผนความร่วมมือกับจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเคยกล่าวว่า ละตินอเมริกาเป็นส่วนขยายโดยธรรมชาติของเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของโครงการ BRI
นอกเหนือจากการค้าและการลงทุน ความร่วมมือระหว่างจีนและภูมิภาคนี้ยังขยายไปสู่ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการปกป้องสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการดาวเทียมทรัพยากรโลกร่วมกับบราซิล ซึ่งมีส่วนช่วยในการหยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่าและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในป่าอะเมซอน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนทั้งสองฝ่าย โดยเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งต้องสร้างขึ้นจากการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ในการเยือนภูมิภาคนี้ทั้ง 6 ครั้ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงมักจะจัดเวลาพบปะกับประชาชนทั่วไป เช่น การเยี่ยมบ้านของชาวไร่กาแฟในคอสตาริกา และการสำรวจซากปรักหักพังของมายาโบราณที่ชิเชนอิตซาในเม็กซิโก
จนถึงปัจจุบัน จีนได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาในภูมิภาคนี้แล้ว 17,000 ทุน และจัดโอกาสฝึกอบรม 13,000 ครั้ง มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางการศึกษา 26 ฉบับกับ 19 ประเทศ และจัดตั้งสถาบันขงจื๊อหรือห้องเรียนขงจื๊อ 68 แห่งทั่วภูมิภาค
นอกจากนี้ จีนยังสร้างความสะดวกในการเดินทางระหว่างสองภูมิภาคผ่านการเปิดเส้นทางบินตรงใหม่ๆ และรวมประเทศละตินอเมริกาเพิ่มขึ้นในโครงการยกเว้นวีซ่า 240 ชั่วโมงของจีน ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากขึ้นเดินทางไปยังละตินอเมริกาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ทั้งจีนและละตินอเมริกาต่างมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรือง การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมจึงเป็นอีกมิติสำคัญของความร่วมมือ เช่น การจัดนิทรรศการร่วมระหว่างแหล่งโบราณคดีซานซิงตุยของจีนกับโบราณวัตถุของชาวอินคาในเปรู ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเปรูเกือบ 10,000 คน
"ในยุคโลกาภิวัตน์และข้อมูลข่าวสาร มหาสมุทรแปซิฟิกไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป แต่เป็นสายสัมพันธ์และสะพานเชื่อม" ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าว สะท้อนวิสัยทัศน์ในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนกับละตินอเมริกาและแคริบเบียน
---
IMCT NEWS : Credit --Illustration: Henry Wong--
ที่มา https://english.news.cn/20250512/976617dadaae411c88ca90e9a556f0c1/c.html