.

แผ่นดินไหวเมียนมาร์ กระทบไทย สะเทือนโครงการ BRI จีนวิตกกังวลผลกระทบต่อท่อส่งน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์จากตะวันออกกลาง
29-3-2025
แผ่นดินไหว 7.7 ริกเตอร์เขย่าเมียนมาร์-ไทย-จีน วิตกกระทบท่อส่งน้ำมันหัวใจ BRI ของปักกิ่ง ผลกระทบต่อระเบียงพลังงานสำคัญของจีนกำลังถูกเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมาร์เมื่อบ่ายวันศุกร์ (28 มี.ค.68) โดยแรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ในประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งจีน ไทย และบังกลาเทศ
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น (GMT+6) มีรายงานว่าเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในเมียนมาร์ในรอบหลายทศวรรษ และก่อให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างกว้างขวางทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนรายงานโดยอ้างอิงสื่อท้องถิ่นในเมียนมาร์ว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 300 คนในประเทศที่กำลังเผชิญกับสงครามกลางเมืองนับตั้งแต่การรัฐประหารทางทหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021
กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทย ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังอาคาร 30 ชั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างพังถล่ม ทำให้คนงานหลายสิบคนติดอยู่ภายในซากอาคารหรือสูญหาย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานแรงสั่นสะเทือนรุนแรงในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 รายในเมืองรุ่ยลี่ซึ่งเป็นเมืองที่มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ CCTV รายงาน สื่อจีนอื่นๆ ยังรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและบ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วนในเมืองรุ่ยลี่ โดยปฏิบัติการกู้ภัยกำลังดำเนินอยู่
วิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียของจีนแสดงให้เห็นอาคารต่างๆ ในคุนหมิง เมืองหลวงของยูนนาน สั่นไหวอย่างรุนแรง
สถานทูตจีนในเมียนมาร์แถลงว่าได้เปิดใช้แผนตอบสนองเหตุฉุกเฉินทันที ประเมินสถานการณ์ของพลเมืองจีน ธุรกิจ และโครงการต่างๆ ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งออกคำแนะนำด้านความปลอดภัย
"สถานทูตกำลังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งนี้ เราจะให้การคุ้มครองและความช่วยเหลือด้านกงสุลแก่พลเมืองจีนในเมียนมาร์อย่างทันท่วงที และตามความต้องการของฝ่ายเมียนมาร์ เราจะช่วยเหลือประชาชนเมียนมาร์ในการบรรเทาทุกข์จากแผ่นดินไหว" สถานทูตชี้แจงกับแพลตฟอร์มออนไลน์ของจีน ThePaper.cn
แผ่นดินไหวครั้งนี้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับท่อส่งน้ำมันและก๊าซจีน-เมียนมาร์ ซึ่งเป็นโครงการเรือธงของยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative) ของปักกิ่ง
ท่อส่งคู่ขนานนี้เชื่อมต่อระหว่างท่าเรือจ็อกพิวและท่าเรือสิตตเวของเมียนมาร์ในอ่าวเบงกอลไปยังเมืองคุนหมิงของจีน โดยเป็นเส้นทางที่หลีกเลี่ยงช่องแคบมะละกาที่มีการจราจรหนาแน่น และได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของจีนและกระจายเส้นทางการจัดหาพลังงาน
"ผลกระทบต่อจีนไม่รุนแรงนัก แต่ต้องให้ความสนใจต่อกิจกรรมทางธรณีวิทยาในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนในระยะต่อไป" ฟาน เซียว นักธรณีวิทยาที่ทำงานในมณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งมีพรมแดนติดกับยูนนาน กล่าว
เขาเสริมว่า ผลกระทบต่อท่อส่งน้ำมันและก๊าซจีน-เมียนมาร์ "จำเป็นต้องได้รับการประเมินบนพื้นฐานของรายงานความเสียหายจากภัยพิบัติ"
หม่า จุน ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า ความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้นมีเหตุผล โดยเสริมว่า "[โครงการ] อาจจำเป็นต้องเริ่มการเฝ้าระวัง การตรวจสอบ และการบำรุงรักษาฉุกเฉิน เพื่อป้องกันภัยพิบัติทุติยภูมิ"
เมื่อหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ติดต่อไปยังโรงพยาบาลรุ่ยลี่ จิงเฉิง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนในเมืองชายแดนของจีนที่ให้บริการแก่เมืองโดยรอบในเมียนมาร์ด้วย พนักงานต้อนรับคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า "โรงพยาบาลมีความวุ่นวายมาก มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว"
ผู้อาศัยในเมืองเหมิงติ้ง เมืองชายแดนของยูนนานซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ 350 กิโลเมตร กล่าวว่าอาคารส่วนใหญ่ในบริเวณนั้นเป็นอาคารเตี้ยและไม่มีการพังทลาย
ศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหวทั่วโลกได้รายงานเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าการประเมินขนาดของแผ่นดินไหวจะแตกต่างกัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติเนื่องจากความไม่แน่นอนของข้อมูลแผ่นดินไหว รวมถึงความแตกต่างในระเบียบวิธีและความพร้อมของข้อมูล
ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวแห่งประเทศจีนรายงานว่ามีความรุนแรง 7.9 แมกนิจูด ขณะที่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USGS) ระบุว่ามีความรุนแรง 7.7 แมกนิจูด เช่นเดียวกับระบบแจ้งเตือนและประสานงานภัยพิบัติโลก ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างสหประชาชาติและคณะกรรมาธิการยุโรป
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองสะกายในภาคกลางของเมียนมาร์ 16 กิโลเมตร (ประมาณ 10 ไมล์) ตามข้อมูลของ USGS เมืองสะกายตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำอิระวดีจากเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมาร์ ทั้งสองเมืองได้รับผลกระทบอย่างหนัก
เมียนมาร์ประกาศภาวะฉุกเฉินใน 6 ภูมิภาค รวมถึงมัณฑะเลย์ ซึ่งเผชิญกับอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีหลังจากแผ่นดินไหวครั้งแรก
มัณฑะเลย์ยังเป็นศูนย์กลางของพ่อค้าชาวจีนที่จัดหาหยกและไม้จากตลาดภายในประเทศไปยังจีน โดยมีรายงานว่าชาวจีนฮั่นคิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรในเมืองนี้เมื่อปี 2010
การลงทุนทั้งหมดของจีนในเมียนมาร์มีมูลค่า 21,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ เดือนกรกฎาคม 2023 คิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ของเงินลงทุนต่างประเทศที่ไหลเข้าประเทศ ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์จีน
ผลประโยชน์ทางธุรกิจของจีนในเมียนมาร์ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า ทรัพยากรเหมืองแร่ และการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
---
IMCT NEWS : Photo: Xinhua