สหราชอาณาจักรต่อต้านการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์

สหราชอาณาจักรต่อต้านการแพร่กระจายของอาวุธนิวเคลียร์
16-3-2025
นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษไม่เห็นด้วยกับการเรียกร้องซ้ำ ๆ ให้มีการแจกจ่ายอาวุธนิวเคลียร์ไปยังประเทศต่างๆในยุโรปเพื่อรับมือกับรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครงเสนอแนวคิดที่จะขยายร่มนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่น ๆ เนื่องจากความกลัวว่าสหรัฐฯ อาจถอนตัวออกจากทวีปนี้ ในการปราศรัยทางโทรทัศน์ระดับชาติ ผู้นำฝรั่งเศสเรียกรัสเซียว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อฝรั่งเศสและยุโรป” ในทางกลับกัน มอสโกกล่าวหาว่าเขามีเจตนารุกรานต่อรัสเซีย
สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นชาติเดียวในยุโรปตะวันตกนอกเหนือจากฝรั่งเศสที่มีอาวุธนิวเคลียร์ จะต่อต้านการแจกจ่ายอาวุธดังกล่าวไปยังประเทศอื่น ๆ สตาร์เมอร์กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์
“ในประเด็นเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ แน่นอนว่าจุดยืนของเราคือเราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของความพร้อมใช้งานของอาวุธนิวเคลียร์” เขากล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับความกังวลเกี่ยวกับประเทศอื่น ๆ ที่พยายามครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
ประธานาธิบดีโปแลนด์ อันด์แชย์ ดูดา ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ เคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์บางส่วนไปยังโปแลนด์ภายใต้โครงการแบ่งปันนิวเคลียร์ของนาโต้ เขากล่าวกับ Financial Times ในการสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี รายงานระบุว่า 5 รัฐของกลุ่มทหารที่นำโดยสหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกาบนดินแดนของตน ได้แก่ เยอรมนี อิตาลี เบลเยียม ตุรกี และเนเธอร์แลนด์
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจ.ดี. แวนซ์ กล่าวว่าเขาจะ “ตกใจ” หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เห็นด้วยกับการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มเติมไปทางตะวันออกของยุโรป “คนอย่าง” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กำลัง “นำเราเข้าสู่ความขัดแย้งนิวเคลียร์อย่างไม่รู้ตัว” เขากล่าวกับ Fox News เมื่อวันพฤหัสบดี เมื่อถูกถามเกี่ยวกับคำร้องของดูดา
เมื่อแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวคิดของมาครงเกี่ยวกับโครงการแบ่งปันนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ เรียกคำพูดของประธานาธิบดีว่าเป็น “ภัยคุกคาม” ต่อรัสเซีย
หากเจ้าหน้าที่ยุโรปมองว่ามอสโกเป็นภัยคุกคามและพูดถึงความพร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อต้านรัสเซียอย่างเปิดเผย “เราถือว่านี่เป็นภัยคุกคาม” นักการทูตระดับสูงเน้นย้ำ
ที่มา RT
--------------------------------
'มาครง' ลั่น! รัสเซีย 'ต้อง' ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง
16-3-2025
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวว่า มอสโกต้องยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วันที่สหรัฐฯ เสนอ และหยุด "ออกแถลงการณ์ที่ล่าช้า" หลังเคียฟตกลงที่จะหยุดยิงเป็นเวลา 1 เดือนในความขัดแย้งในยูเครน หลังจากการเจรจากับสหรัฐฯ ในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอังคาร ต่อมา วอชิงตันได้กลับมาแบ่งปันข่าวกรองกับยูเครนและการขนส่งอาวุธไปยังยูเครนอีกครั้ง ไม่มีประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเข้าร่วมการเจรจาดังกล่าว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 มี.ค.) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ยืนยันว่ารัสเซียพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการหยุดยิง แต่เงื่อนไขต่างๆ จะต้องได้รับการชี้แจงให้ชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าจะนำไปสู่สันติภาพที่มั่นคงและถาวร
ขณะที่เมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.) หลังจากการเจรจากับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษ และโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ทำให้มาครงเรียกร้องให้มอสโกยอมรับข้อตกลงที่เสนอ
“รัสเซียต้องยอมรับข้อเสนอของสหรัฐฯ-ยูเครนเกี่ยวกับการหยุดยิง 30 วัน” มาครงระบุผ่าน X และเสริมว่าเขาจะทำงานต่อไปเพื่อระดมการสนับสนุนเคียฟในอนาคต
นอกจากนี้ อังกฤษยังเรียกร้องให้มอสโกยุติการสู้รบโดยไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย
“ตอนนี้เป็นเวลาที่จะหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ยูเครนได้แสดงจุดยืนของตนออกมาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่รัสเซียต้องยอมรับมัน” เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวในความเห็นต่อสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.)
ขณะที่อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ในฐานะรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว พร้อมระบุผ่าน X ว่า “อังกฤษและรัฐมนตรีสามารถยัดเยียดแนวคิดของพวกเขาเข้าไปในหลุมนรกได้ โดยใช้การทูต”
ด้านรัสเซียประณามคำกล่าวที่แสดงออกอย่างเป็นปฏิปักษ์มากขึ้นเรื่อยๆ ของผู้นำยุโรปเกี่ยวกับการส่งเสริมการทหาร ขณะที่กระแสในสนามรบเปลี่ยนไปในทางที่เอื้อต่อมอสโกมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรัสเซียระบุว่าประเทศตะวันตกยังคงส่งเสบียงทางทหารให้กับยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความขัดแย้งดังกล่าวกลายเป็นสงครามตัวแทนที่นำโดยนาโต้ต่อรัสเซีย
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ตอบโต้แผนริเริ่มของอังกฤษและฝรั่งเศสในการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปยังยูเครน โดยกล่าวว่าแนวคิดดังกล่าวเป็น "ศัตรู" ต่อรัสเซียโดยตรง ขณะที่ทหารของกลุ่มกองกำลังทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ที่อยู่ในความขัดแย้งนี้ แม้จะอ้างตัวว่าเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพก็ตาม ถือเป็น "การมีส่วนร่วมอย่างเป็นทางการโดยตรงของประเทศสมาชิก NATO ในสงครามต่อต้านรัสเซีย"
IMCT News
ที่มา https://www.rt.com/news/614268-russia-must-accept-proposed-ceasefire/