.

กลุ่ม ‘G7’ จี้รัสเซียเห็นชอบสัญญาหยุดยิง ขู่ลงโทษเพิ่ม
15-3-2025
ตัวแทนชาติสมาชิกกลุ่มจี 7 แถลงในวันศุกร์ เรียกร้องให้รัสเซียเห็นชอบกับข้อเสนอของสหรัฐฯ ให้เกิดการหยุดยิงในยูเครนบนเงื่อนไขที่เท่าเทียมกัน และนำไปปฏิบัติอย่างเต็มที่
แถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่จากการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ที่จัดขึ้นที่ควิเบก ประเทศแคนาดา ระบุว่า “เราได้หารือเรื่องการเพิ่มต้นทุน (ที่ต้องจ่าย) ของรัสเซีย ในกรณีที่การหยุดยิงไม่ได้รับการเห็นชอบ ซึ่งหมายรวมถึงการคว่ำบาตรเพิ่มเติม การจำกัดราคาน้ำมัน ไปจนถึงเพิ่มการสนับสนุนให้ยูเครนและแนวทางอื่น ๆ ”
ทำเนียบขาวระบุว่า สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของกลุ่มเจ็ดชาติประชาธิปไตยชั้นนำของโลกมีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลเครมลินระบุว่ายังมีหลายจุดที่ต้องพิจารณาในข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งสะท้อนท่าทีลังเลต่อการยอมรับแนวทางที่สหรัฐฯ เป็นผู้เสนอ
ทางด้านมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวในวันศุกร์ถึงการหยุดยิงว่า “ผมคิดว่ามีเหตุผลที่จะมองบวกอย่างระมัดระวัง แต่ในคราวเดียวกัน เรายังเห็นว่านี่คือสถานการณ์ที่ยากเย็นและซับซ้อน”
เมลานี โจลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดากล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติจี 7 ทุกคนเห็นชอบกับข้อเสนอหยุดยิงของสหรัฐฯ ที่ชาวยูเครนให้การสนับสนุน
เดวิด แลมมี รมต.ต่างประเทศของอังกฤษกล่าวว่า ยูเครนมีท่าทีที่ชัดเจนแล้ว ตอนนี้ขึ้นอยู่กับรัสเซียที่จะยินยอมพร้อมใจ ไม่เพียงเท่านั้ยังระบุว่ามี “แนวร่วมทางเจตจำนง” ที่จะช่วยเหลือยูเครนในด้านความมั่นคงและกลไกเฝ้าระวังเพื่อสนับสนุนการหยุดยิง
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี มองว่าท่าทีลังเลของปูตินเมื่อวันพฤหัสบดีคือการพยายามสร้างเงื่อนไขการหยุดสู้รบให้ซับซ้อนมากขึ้น และลากกระบวนการให้ยาวออกไป
นอกจากการหารือเรื่องสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน กลุ่มจี 7 ยังหารือกันในวาระความท้าทายทางยุทธศาสตร์ อื่น ๆ จากจีน เกาหลีเหนือ อิหร่าน และรัสเซีย ซึ่งนักวิเคราะห์ด้านการทหารและการทูตจับตามองกระแสต่อต้านความร่วมมือของประเทศตะวันตกที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศนี้
แถลงร่วมระบุว่ากลุ่มจี 7 ยังคงกังวลต่อการสั่งสมกำลังทหารและอาวุธนิวเคลียร์ของจีน และเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งร่วมหารือในด้านการลดความเสี่ยงทางยุทธศาสตร์ รวมถึงใช้หลักความโปร่งใสเพื่อสร้างเสริมเสถียรภาพ
ในประเด็นช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้ ชาติสมาชิกจี 7 เน้นย้ำไม่ให้จีนดำเนินการใด ๆ เพียงฝ่ายเดียว เพื่อปรับเปลี่ยนสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ ในพื้นที่พิพาทดังกล่าว
เจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์ต่างจับตามองการหยุดยิงในยูเครน ในฐานะหมุดหมายที่จะทำให้สหรัฐฯ นำทรัพยากรไปใช้ในเวทีอิทธิพลอื่น ๆ ของโลก เช่นภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ รูบิโอ กล่าวกับวีโอเอก่อนหน้านี้ว่า “เราสามารถใช้เวลามากขึ้นในหลายแง่มุม เพื่อโฟกัสไปที่อินโด-แปซิฟิก หากเราสามารถนำสันติภาพมายังทวีปยุโรปได้”
จี 7 คือกลุ่มประเทศที่ประกอบด้วยอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ
ที่มา: วีโอเอ
-------------------------------
G7 แสดงจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีน หนุนไต้หวัน ตัดคำว่า "จีนเดียว" ออกจากแถลงการณ์เกี่ยวกับไต้หวัน
15-3-2025
Investing รายงานโดยอ้างรอยเตอร์ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 แสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีนเมื่อวันศุกร์ โดยเพิ่มการใช้ถ้อยคำที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับไต้หวัน และตัดข้อความที่แสดงความประนีประนอมออกจากแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ รวมถึงการอ้างถึงนโยบาย "จีนเดียว"
แถลงการณ์ของรัฐมนตรีที่ประชุมกันในแคนาดาสะท้อนถ้อยคำในแถลงการณ์ร่วมญี่ปุ่น-สหรัฐฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ประณาม "การบีบบังคับ" ต่อไต้หวัน ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ทำให้ไทเปมีกำลังใจในสถานการณ์ที่ตึงเครียดกับปักกิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเปรียบเทียบกับแถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 เมื่อเดือนพฤศจิกายน แถลงการณ์ฉบับล่าสุดได้เพิ่มข้อความแสดงความกังวลของสมาชิกเกี่ยวกับการขยายแสนวุธนิวเคลียร์ของจีน แต่กลับตัดการอ้างอิงถึงความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของปักกิ่งในซินเจียง ทิเบต และฮ่องกง
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังตัดข้อความที่เคยเน้นย้ำถึงความปรารถนาในการมี "ความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์และมั่นคงกับจีน" รวมถึงการตระหนักถึง "ความสำคัญของการมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงและเปิดเผยเพื่อแสดงความกังวลและจัดการกับความเห็นที่แตกต่างกัน"
แถลงการณ์ดังกล่าวยังตัดคำมั่นที่เคยระบุไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ว่า "ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน ๆ ในจุดยืนพื้นฐานของสมาชิก G7 ที่มีต่อไต้หวัน รวมถึงนโยบายจีนเดียวที่ได้ประกาศไว้" อีกทั้งยังตัดข้อความที่ระบุว่า G7 "ไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์หรือหันเข้าหาตัวเอง" และยังตระหนักถึงความสำคัญของจีนในการค้าโลก
นโยบาย "จีนเดียว" ที่ยอมรับปักกิ่งเป็นรัฐบาลที่เป็นทางการของจีนและรับประกันว่าความสัมพันธ์กับไทเปจะยังคงไม่เป็นทางการนั้น ถือเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างชาติตะวันตกกับจีนและไต้หวันมานานหลายทศวรรษ การตัดข้อความนี้ออกย่อมสร้างความกังวลอย่างมีนัยสำคัญให้กับปักกิ่งอย่างแน่นอน
แถลงการณ์ยังกล่าวถึงไต้หวัน ซึ่งเป็นเกาะที่ปกครองตนเองแต่จีนอ้างว่าเป็นดินแดนของตน โดยระบุว่ารัฐมนตรี "สนับสนุนการแก้ไขปัญหาช่องแคบไต้หวันอย่างสันติ และย้ำจุดยืนที่คัดค้านความพยายามฝ่ายเดียวใด ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมด้วยกำลังหรือการบีบบังคับ"
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ แห่งญี่ปุ่น ได้เริ่มใช้คำว่า "การบีบบังคับ" ในบริบทของการที่จีนเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อไต้หวันในการประชุมสุดยอดเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ทรัมป์ได้แต่งตั้งผู้ที่มีจุดยืนแข็งกร้าวต่อจีน (China hawks) ในตำแหน่งสำคัญของรัฐบาล แม้ว่าแนวทางที่แท้จริงของเขาที่มีต่อปักกิ่งยังไม่ชัดเจน และรัฐบาลของเขากำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเร็ว ๆ นี้
รัฐมนตรีต่างประเทศ G7 ซึ่งได้ประชุมกันที่เมืองท่องเที่ยวห่างไกลอย่างลามาลแบ ประเทศแคนาดาในสัปดาห์นี้ ยังคงมุ่งความสนใจไปที่จีน โดยแสดงความกังวลอย่างจริงจังเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้
เมื่อกล่าวถึงการกระทำของจีนต่อฟิลิปปินส์และเวียดนาม พวกเขาแสดงความกังวลต่อการใช้ "การเคลื่อนไหวที่อันตรายและปืนฉีดน้ำ" ที่เพิ่มมากขึ้น และความพยายามที่จะจำกัดเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้
สมาชิก G7 ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายและการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับกลไกตลาดของจีน โดยชี้ว่าสิ่งเหล่านี้นำไปสู่กำลังการผลิตส่วนเกินที่เป็นอันตรายและความบิดเบือนของตลาด พวกเขาเรียกร้องให้ปักกิ่งงดเว้นการใช้มาตรการควบคุมการส่งออกที่อาจส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักอย่างมีนัยสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
---
IMCT NEWS