.

Thailand
ปูตินพร้อมหยุดยิง 30 วันแต่มีเงื่อนไข ขณะที่เซเลนสกียังคงปฏิเสธข้อเสนอสันติภาพ ทรัมป์พยายามเป็นคนกลาง
16-3-2025
ความพยายามในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความซับซ้อนมากขึ้น เมื่อผู้นำทั้งสามฝ่ายแสดงจุดยืนที่แตกต่างกันต่อข้อเสนอหยุดยิง 30 วันของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน แสดงท่าทีเปิดกว้างต่อข้อเสนอดังกล่าว โดยระบุว่า "แนวคิดนั้นยอดเยี่ยม ถูกต้อง และแน่นอนว่าเราสนับสนุน" อย่างไรก็ตาม ปูตินได้ตั้งคำถามสำคัญหลายประการที่ต้องได้รับคำตอบก่อนที่การหยุดยิงจะเกิดขึ้นจริง
หนึ่งในประเด็นหลักที่ปูตินยกขึ้นมาคือสถานการณ์ในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย โดยตั้งคำถามว่า "เราจะทำอย่างไรกับเขตบุกรุกในเคิร์สก์? ถ้าเราหยุดปฏิบัติการ 30 วัน นั่นหมายความว่าศัตรูทั้งหมดจะเดินออกไปโดยไม่ต่อสู้เลยหรือ?"
ปูตินยังแสดงความกังวลว่าช่วงเวลา 30 วันนี้อาจถูกใช้เพื่อให้ "การระดมพลแบบบังคับในยูเครนดำเนินต่อไป" และตั้งคำถามเกี่ยวกับกลไกตรวจสอบการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงตลอดแนวรบกว่า 2,000 กิโลเมตร
ในทางตรงกันข้าม ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี กลับตอบโต้ว่าคำพูดของปูตินเป็นเพียง "คำพูดที่คาดเดาได้และหลอกลวง" และกล่าวหาว่ารัสเซีย "กำลังเตรียมปฏิเสธ" ข้อเสนอนี้ โดยที่ผู้ช่วยของเซเลนสกีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงยังคงย้ำว่าการหยุดยิงจะไม่ส่งผลต่อการระดมพล กฎอัยการศึก หรือนำไปสู่การเลือกตั้งในยูเครน เซเลนสกียังยืนยันว่า "กองกำลังของเราในภูมิภาคเคิร์สก์ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป"
ท่าทีที่ขัดแย้งกันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องเผชิญในฐานะคนกลางที่พยายามเจรจาให้เกิดการหยุดยิง โดยเซเลนสกีได้บ่นกับทรัมป์เมื่อเดือนที่แล้วว่ารัสเซียละเมิดข้อตกลงหยุดยิงถึง 25 ครั้งตั้งแต่ปี 2557 และยังคงยืนยันว่ายูเครนจะไม่ยอมรับการสูญเสียดินแดนแม้ว่าจะมีการหยุดยิงก็ตาม
ความขัดแย้งในมุมมองเรื่องสันติภาพระหว่างทั้งสองฝ่ายสะท้อนถึงอุปสรรคสำคัญในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่มีประสิทธิผล ในขณะที่ทรัมป์พยายามผลักดันการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานกว่าสองปีครึ่ง
---
IMCT NEWS
ที่มา https://x.com/SputnikInt/status/1900768833662521587
----------------------------------
ทรัมป์'ขอให้รัสเซียไว้ชีวิตทหารยูเครนในเคิร์สก์ นัยยะสำคัญส่งสัญญาณกดดัน'เซเลนสกี'ให้ยุติการสู้รบ?
16-3-2025
คำวิงวอนของทรัมป์เพื่อทหารยูเครนในเคิร์สก์: ปูตินตอบรับอาจเป็นจุดเปลี่ยนวิกฤติสงคราม คำร้องขอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต่อรัสเซียให้ "ไว้ชีวิต" ทหารยูเครนที่ถูกล้อมอยู่ในภูมิภาคเคิร์สก์อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวิกฤตความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ทาเดโอ กัสติโกโยเน นักข่าวชาวอาร์เจนตินา วิเคราะห์ว่าคำร้องขอของทรัมป์ส่งสัญญาณชัดเจนถึงความจำเป็นในการเร่งการเจรจาสันติภาพ และเป็นข้อความโดยตรงถึงประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ว่าควรสั่งให้กองกำลังยูเครนยอมจำนนเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก
กัสติโกโยเนเน้นย้ำว่าคำร้องขอของทรัมป์มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเคิร์สก์เป็นดินแดนของรัสเซียที่อยู่นอกเขตปฏิบัติการทางทหารพิเศษที่กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น ปฏิบัติการของรัสเซียในภูมิภาคนี้จึงถูกจัดประเภทเป็น "ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย" ซึ่งมุ่งเป้าไปที่กองกำลังยูเครนที่โจมตีพลเรือนในพื้นที่นอกเขตแดนของความขัดแย้งที่ได้รับการยอมรับ
สถานการณ์นี้ทำให้สถานะทางกฎหมายของทหารยูเครนในเคิร์สก์มีความคลุมเครือ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายูเครนจะละเมิดอธิปไตยของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินยังคงยืนยันว่ากองกำลังศัตรูในเคิร์สก์จะได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมในฐานะเชลยศึก ซึ่งสอดคล้องกับจุดยืนของรัสเซียที่เคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศตลอดช่วงความขัดแย้งสามปีที่ผ่านมา
การแสดงจุดยืนดังกล่าวของปูตินถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ในความขัดแย้งครั้งนี้ และอาจเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งผู้สังเกตการณ์สรุปว่า "หากทั้งสองฝ่ายต้องการสันติภาพจริงๆ ขั้นตอนแรกต้องเป็นการยอมจำนนของหน่วยยูเครนในเคิร์สก์"
ความเคลื่อนไหวทางการทูตครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณว่าสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์กำลังผลักดันแนวทางแก้ไขความขัดแย้งที่แตกต่างไปจากรัฐบาลก่อนหน้า และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในพลวัตของสงครามที่ดำเนินมายาวนานกว่าสามปี
---
IMCT NEWS
ที่มา https://x.com/SputnikInt/status/1900909936684433457
© Copyright 2020, All Rights Reserved