จีนผูกขาดโลหะพลังงานสะอาด ทุ่ม 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ยึดห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

15-2-2025

    จีนปูพรมยึดครองตลาดโลหะสำหรับพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงานสีเขียวทั่วโลก รายงานล่าสุดจาก AidData แห่งวิทยาลัยวิลเลียมแอนด์แมรี สหรัฐฯ เผยปักกิ่งทุ่มเงิน 57,000 ล้านดอลลาร์ผ่านสถาบันการเงินที่รัฐหนุนหลัง 26 แห่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เพื่อควบคุมแหล่งแร่ยุทธศาสตร์ทั่วโลก

    ข้อมูลจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่า จีนครองส่วนแบ่งการแปรรูปแร่สำคัญสูงสุด ทั้งแร่หายาก 87% โคบอลต์ 65% ลิเธียม 58% นิกเกิล 35% และทองแดง 40% ขณะที่ด้านการผลิต จีนผลิตแร่หายากได้ 60% ของโลก รองลงมาคือทองแดงที่ชิลีผลิต 28% นิกเกิลที่อินโดนีเซียผลิต 33% และโคบอลต์ที่คองโกผลิต 69%

    รายงาน Power Playbook: Beijing's Bid to Secure Overseas Transition Minerals ระบุว่า จีนปล่อยกู้ 93 สัญญาและให้เงินช่วยเหลือ 1 รายการผ่านผู้ให้ทุน 86 ราย ทั้งจีนและนอกจีน แก่ผู้รับทุน 59 ราย โดย 75% ของการลงทุนออกแบบให้จีนถือหุ้นผ่านการร่วมทุน (JV) และบริษัทเฉพาะกิจ (SPV) เพื่อควบคุมการสกัดและแปรรูปแร่

    การขยายอิทธิพลครอบคลุมทั้งทองแดงและโคบอลต์ในคองโกและเปรู นิกเกิลในอินโดนีเซีย และลิเธียมในอาร์เจนตินา แตกต่างจากโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ตรงที่ใช้เครือข่ายผู้ให้กู้กว้างขึ้น รวมถึงธนาคารพาณิชย์ของรัฐอย่าง ICBC, Bank of China และ Citic

    กลยุทธ์การเงินเน้นการปล่อยกู้ต่อเนื่องแทนการให้กู้ครั้งเดียว มีอัตราการค้ำประกันสูงถึง 25% เทียบกับ 4% ของโครงการ BRI ทั่วไป สะท้อนความมุ่งมั่นระยะยาวในการควบคุมทรัพยากร The Economist รายงานว่าปี 2023 บริษัทจีนลงทุนในเหมืองต่างประเทศสูงถึง 16,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบทศวรรษ เพิ่มจาก 5,000 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน

    ผลกระทบต่อประเทศเจ้าของทรัพยากรปรากฏชัดในสองในสามของกรณี ที่ JV และ SPV กีดกันการถือหุ้นของรัฐบาลท้องถิ่น แม้จะช่วยลดภาระทางการเงิน แต่จำกัดผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับในอนาคต โดยเฉพาะในคองโกที่มีแรงงานเด็กถึง 40,000 คนในเหมืองโคบอลต์ ท่ามกลางความต้องการลิเธียมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวระหว่างปี 2020-2023 ตามการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า

    ขณะที่รัฐบาลไบเดนระบุแร่หายากเป็นหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานสำคัญที่ต้องพัฒนาภายในประเทศ รายงานชี้ว่ากลยุทธ์ของจีนสร้างความกังวลต่อประเทศกำลังพัฒนาในการรักษาอำนาจอธิปไตยเหนือทรัพยากรธรรมชาติ ท่ามกลางการผูกขาดห่วงโซ่อุปทานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องของจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงานและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดของโลกในอนาคต

---

https://www.mining.com/china-funnelled-57-billion-to-control-critical-mineral-supply-chain/