เวียดนาม-นิวซีแลนด์ยกระดับความสัมพันธ์

เวียดนาม-นิวซีแลนด์ยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม
ขอบคุณภาพจาก VnExpress International
2-3-2025
เวียดนามและนิวซีแลนด์ได้ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ทวิภาคี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการประกาศยกระดับความสัมพันธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันซึ่งจัดขึ้นภายหลังการเจรจาที่ประสบความสำเร็จระหว่างนายกรัฐมนตรี Phạm Minh Chính และนายกรัฐมนตรี Christopher Luxon แห่งนิวซีแลนด์ ระหว่างเดินทางเยือนกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ซึ่งจากการพัฒนาดังกล่าว นิวซีแลนด์จึงกลายเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมลำดับที่ 10 ของเวียดนาม
นายกรัฐมนตรี Chính ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรี Luxon ในการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ และการเข้าร่วมการประชุม ASEAN Future Forum 2025 ครั้งที่ 2 ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามและนิวซีแลนด์ด้วย
ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันว่า หลังจากความสัมพันธ์ทางการทูตมาเป็นเวลา 5 ทศวรรษ ความร่วมมืออย่างครอบคลุม 16 ปี และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ 5 ปี ทั้งสองประเทศได้สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและกว้างขวาง ด้วยรากฐานที่มั่นคงนี้ ทั้งสองประเทศจึงตัดสินใจยกระดับความสัมพันธ์เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างครอบคลุม
นายกรัฐมนตรี Chính กล่าวว่า ความร่วมมือใหม่นี้จะเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและกระชับความร่วมมือระหว่างเวียดนามและนิวซีแลนด์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งความร่วมมือนี้ สะท้อนถึงความปรารถนาที่ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ และสร้างขึ้นบนหลักการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ เอกราช อำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และระบบการเมืองร่วมกัน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ที่ยกระดับขึ้นยังคาดว่าจะส่งผลดีต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาในภูมิภาคและทั่วโลกอีกด้วย
ภายใต้กรอบความร่วมมือใหม่นี้ ความสัมพันธ์ทวิภาคีจะได้รับการพัฒนาใน 5 ด้านหลัก จากการที่ความไว้วางใจทางการเมืองจะได้รับการยกระดับไปสู่ระดับยุทธศาสตร์ที่สูงขึ้น ในขณะที่ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงจะมีเนื้อหาสาระมากขึ้น ส่วนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนจะขยายออกไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้น รวมไปถึงความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะได้รับการสถาปนาเป็นเสาหลักใหม่ของความร่วมมือ
นอกจากนี้ การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนจะได้รับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งผ่านความร่วมมือที่มากขึ้นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ แรงงาน และการท่องเที่ยว ผู้นำทั้งสองยังสนับสนุนให้สายการบินเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ โดยสายการบินเวียดเจ็ทได้เปิดตัวเส้นทางบินใหม่แล้ว
ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างการประสานงานและการสนับสนุนซึ่งกันและกันในฟอรัมพหุภาคี โดยเฉพาะภายในสหประชาชาติ อาเซียน และกลไกที่อาเซียนเป็นผู้นำ พวกเขาตกลงที่จะส่งเสริมการสนทนา สร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศ และยึดมั่นในบทบาทสำคัญของอาเซียนในการกำหนดโครงสร้างภูมิภาค
ส่วนด้านความมั่นคงทางทะเล ผู้นำทั้งสองเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความปลอดภัย และเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลจีนใต้ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 (UNCLOS) นอกจากนี้ พวกเขายังตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในกิจการทางทะเล โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการทำให้ทะเลจีนใต้เป็นภูมิภาคแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา
นายกรัฐมนตรีเวียดนามเน้นย้ำว่ากรอบความร่วมมือที่ปรับปรุงใหม่นี้จะช่วยให้ทั้งสองประเทศสามารถดำเนินความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนมากขึ้นในหลากหลายสาขา เพื่อตอบสนองความปรารถนาและผลประโยชน์ของประชาชน ซึ่งความร่วมมือที่แข็งแกร่งขึ้นนี้จะมีส่วนสนับสนุนที่สำคัญต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก รัฐบาลทั้งสองได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือใหม่นี้ได้อย่างมีประสิทธิผล
เวียดนามในฐานะผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-นิวซีแลนด์จะยังคงทำงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อาเซียน-นิวซีแลนด์ต่อไป ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนให้มีการยกระดับความร่วมมืออาเซียน-นิวซีแลนด์ ซึ่งจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกันและมีส่วนสนับสนุนสันติภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาในระดับภูมิภาคและระดับโลก
ด้านนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของนิวซีแลนด์ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับเวียดนาม และแสดงความหวังว่าจะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในอนาคตอันใกล้ ขณะเดียวกัน ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา Luxon ได้ยอมรับถึงเหตุการณ์สำคัญและความสำเร็จที่สำคัญที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ รวมถึงการมีส่วนร่วมที่เพิ่มมากขึ้นของนิวซีแลนด์กับอาเซียน ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการร่วมมือและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค
ระหว่างการหารือ ผู้นำทั้งสองได้พูดคุยกันเพื่อหาแนวทางในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน นายกรัฐมนตรี Luxon ชื่นชมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นของเวียดนาม โดยระบุว่าการค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
Luxon มองว่าเวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจ และยอมรับถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน และความร่วมมือทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเกษตรกรรม ประมง และพลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้ เขายังระบุถึงความร่วมมือทางทะเล การศึกษา การป้องกันประเทศและความมั่นคงเป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มดีสำหรับการขยายความร่วมมือ
นอกจากนี้ Luxon ก็ยังรับทราบถึงวัตถุประสงค์ร่วมกันในการส่งเสริมภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่สงบสุข มั่นคง และเจริญรุ่งเรือง และย้ำถึงความมุ่งมั่นของนิวซีแลนด์ในการเสริมสร้างความร่วมมือกับเวียดนาม เขาแสดงความสนใจในการยกระดับการเจรจาด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง และประกาศแผนสำหรับเรือรบของนิวซีแลนด์ที่จะเยือนเวียดนามในช่วงปลายปีนี้ (2025)
อีกด้านหนึ่ง ผู้นำนิวซีแลนด์ยังได้แสดงความขอบคุณเวียดนามที่เชิญเขาเข้าร่วมใน ASEAN Future Forum โดยกล่าวว่างานดังกล่าวเป็นโอกาสในการมีส่วนร่วมในการหารือเกี่ยวกับอาเซียนที่เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรือง และเพื่อแบ่งปันลำดับความสำคัญที่นิวซีแลนด์ เวียดนาม และอาเซียนกำลังดำเนินการร่วมกัน พร้อมย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างนิวซีแลนด์กับเวียดนามและอาเซียนนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เคย และแสดงความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนให้มากยิ่งขึ้น เขากล่าวว่าการเสริมสร้างความสัมพันธ์เหล่านี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายความร่วมมือด้านการศึกษาและการท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการได้รับทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนเวียดนามด้วย
IMCT News