จับตาทิศทางนโยบายการทูต-การค้าจีนในการประชุมสองสภา พรุ่งนี้

ขอบคุณภาพจาก newseu.cgtn.com

3-3-2025

    การประชุมสองสมัยซึ่งเป็นงานการเมืองประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีน กำหนดจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ (4 มี.ค.) ซึ่งความสนใจทั่วโลกจะมุ่งไปที่การเคลื่อนไหวทางการทูตของจีนท่ามกลางโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ และความท้าทายทางเศรษฐกิจและความมั่นคงที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก

    การประชุมของสภาประชาชนแห่งชาติ สภานิติบัญญัติระดับสูง และคณะกรรมการแห่งชาติของสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาทางการเมืองระดับสูง ทำหน้าที่เป็นหน้าต่างให้โลกได้สังเกตทิศทางนโยบายของจีน รูปแบบการบริหาร และวิสัยทัศน์ระยะยาว รวบรวมนักกฎหมายและที่ปรึกษาทางการเมืองหลายพันคนเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการในอนาคตของประเทศสำหรับการพัฒนารอบด้าน

    ในขณะที่โลกกำลังรอคอยวาระในปีนี้ (2025) การหารือในประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจของจีนและการปรับปรุงการทูตเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศก็เริ่มร้อนแรงขึ้น ท่ามกลางความไม่มั่นคงและความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นในโลก ความคาดหวังที่มีต่อจีนซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกและประเทศใหญ่ คือการมีบทบาทเป็นเสาหลักแห่งเสถียรภาพและการเติบโตเพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือระดับโลก

    เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (2025) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หวัง อี้ ได้กล่าวปราศรัยในการประชุมความมั่นคงมิวนิกครั้งที่ 61 โดยเรียกร้องให้สร้างโลกที่มีหลายขั้วที่เท่าเทียมและเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยกล่าวว่าจีนจะเป็นปัจจัยแห่งความแน่นอนในระบบที่มีหลายขั้วนี้ และมุ่งมั่นที่จะเป็นพลังสร้างสรรค์ที่มั่นคงในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป

    อาซาร์ อาซัม นักวิจารณ์กิจการปัจจุบันและนักวิเคราะห์กิจการภูมิรัฐศาสตร์ กล่าวว่าคำกล่าวของหวางย้ำถึงความมุ่งมั่นของจีนในการส่งเสริมโลกที่มีหลายขั้ว และเสนอข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับความท้าทายร่วมกัน ซึ่งอาซัมกล่าวเสริมว่า จีนตั้งใจที่จะพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศในวงกว้างและต่อสู้กับความท้าทายที่แท้จริง เช่น ความขัดแย้ง การถดถอยทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพระหว่างประเทศและการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ

     รายงาน Global Cooperation Barometer 2025 ซึ่งเผยแพร่ร่วมกันโดย World Economic Forum และ McKinsey & Co ในเดือนมกราคม ระบุว่าความวุ่นวายทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อรูปแบบความร่วมมือพหุภาคี โดยความร่วมมือระหว่างประเทศนั้นแทบจะหยุดนิ่ง

     Warwick Powell ศาสตราจารย์พิเศษจาก Queensland University of Technology และนักวิจัยอาวุโสจาก Beijing Taihe Institute กล่าวว่า เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาซึ่งสนับสนุนแนวทางฝ่ายเดียวและเกมผลรวมเป็นศูนย์ แนวคิดเรื่องพหุขั้วของจีนไม่ได้หมุนรอบ "การแข่งขันของมหาอำนาจ" แต่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดูแลความมุ่งมั่นร่วมกันในการรักษาความมั่นคงร่วมกันและผลประโยชน์ร่วมกันอื่นๆ พร้อมมองว่า จีนระบุถึงพหุภาคีที่แท้จริงและรวบรวมประเทศทางใต้ของโลกในการปรับปรุงระบบการกำกับดูแลระดับโลกโดยมีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง และนโยบายต่างประเทศของจีนในการจัดการกับประเทศใหญ่ๆ โดยเฉพาะสหรัฐฯ จะเป็นไฮไลท์ที่ดึงดูดความสนใจจากนานาชาติ

ซินผิง นักวิจารณ์ด้านกิจการระหว่างประเทศประจำกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ชาวจีนและแวดวงวิชาการของจีนต่างแสดงความกังวลอย่างกว้างขวางว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ อาจใช้กลยุทธ์ควบคุมจีนในวงกว้างมากขึ้น

ซินกล่าวว่า จีนมีประสบการณ์มากมายในการนำความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบาก และจะยังคงนำความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ต่อไปด้วยความยืดหยุ่นและความมั่นใจเช่นเดียวกับที่เคยทำมา

    อีกด้านหนึ่ง จีนและสหรัฐฯ สามารถเป็นพันธมิตรกันในการแก้ไขปัญหาระดับโลกร่วมกัน เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และเสริมว่า สิ่งสำคัญคือการก้าวข้ามปัญหาทวิภาคีและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายร่วมกันที่กว้างขึ้นสำหรับมนุษยชาติ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว การทำงานร่วมกันเพื่ออนาคตที่ดีกว่านั้นเป็นสิ่งสำคัญ

    ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา (2025) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้จัดกิจกรรมการทูตระดับประมุขของประเทศหลายครั้ง เพื่อกำหนดทิศทางสำหรับความพยายามทางการทูตของประเทศ ซึ่งรวมถึงการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ การประชุมทางวิดีโอกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย และการสนทนาทางโทรศัพท์กับอันโตนิโอ คอสตา ประธานสภายุโรป

     ท่ามกลางความท้าทายระดับโลกที่รุนแรงเกี่ยวกับสันติภาพ การพัฒนา ความมั่นคง และการปกครอง การทูตของประเทศใหญ่ที่มีลักษณะเฉพาะของจีน ซึ่งนำโดยสี จิ้นผิง กำลังแสดงให้เห็นบทบาทที่โดดเด่นเพิ่มมากขึ้นของจีนในฐานะผู้สนับสนุนหลักสำหรับสันติภาพและการพัฒนาระดับโลก

IMCT News

ที่มา https://www.chinadaily.com.cn/a/202503/02/WS67c47986a310c240449d8131.html