ซิตี้กรุ๊ปโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าผิดพลาดเป็นจำนวน 81 ล้านล้านดอลลาร์

2-3-2025

   ซิตี้กรุ๊ปทำการโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าผิดพลาดเป็นจำนวน 81 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่ตั้งใจจะส่งเพียง 280 ดอลลาร์

   การชำระเงินดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนในปีที่ผ่านมา ถูกมองข้ามโดยพนักงานสองคน แต่ถูกตรวจพบ 90 นาทีหลังจากโพสต์ โดย Financial Times รายงานเป็นครั้งแรกในวันศุกร์ การโอนเงินถูกยกเลิกไปหลายชั่วโมงต่อมา และถูกรายงานต่อธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) และสำนักงานควบคุมการเงิน (Office of the Comptroller of the Currency) ในกรณี”เหตุการณ์ที่เกือบเกิดขึ้น"

    เหตุการณ์นี้เป็นความผิดพลาดล่าสุดที่ถูกเปิดเผยโดยธนาคารวอลล์สตรีทแห่งนี้ ซึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการดำเนินงานหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    "แม้ว่าการชำระเงินที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้จะไม่สามารถดำเนินการได้จริง แต่ระบบการตรวจจับของเราสามารถระบุข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูลระหว่างบัญชีแยกประเภทสองบัญชีของซิตี้ได้อย่างรวดเร็ว และเราได้ยกเลิกการบันทึกดังกล่าว" ซิตี้กล่าวในแถลงการณ์ต่อ NBC News "ระบบป้องกันของเรายังจะหยุดยั้งไม่ให้เงินออกจากธนาคารด้วย แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่มีผลกระทบต่อธนาคารหรือลูกค้าของเรา แต่มันก็เน้นย้ำถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของเราในการกำจัดกระบวนการที่ต้องทำด้วยมือและทำให้ระบบควบคุมเป็นอัตโนมัติผ่านการเปลี่ยนแปลงของเรา”

    ซิตี้ไม่ได้ยืนยันหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับจำนวนเหตุการณ์ที่เกือบเกิดขึ้นที่พบเจอ

     เหตุการณ์ที่เกือบเกิดขึ้น (Near misses) เกิดขึ้นเมื่อธนาคารดำเนินการด้วยจำนวนเงินที่ผิดพลาด แต่สามารถกู้คืนเงินได้ ตามรายงาน ธนาคารเผชิญเหตุการณ์ที่เกือบเกิดขึ้น 10 ครั้งในมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์หรือมากกว่านั้นเมื่อปีที่แล้ว และ 13 ครั้งในปีก่อนหน้า

    ธนาคารพยายามแก้ไขชื่อเสียงของตนตั้งแต่ที่ส่งเงิน 900 ล้านดอลลาร์โดยผิดพลาดไปยังเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้ของกลุ่มเครื่องสำอาง Revlon เมื่อห้าปีก่อน ซึ่งนำไปสู่การปลดนายไมเคิล คอร์แบท อดีตซีอีโอ รวมถึงค่าปรับจำนวนมากและคำสั่งควบคุมจากหน่วยงานกำกับดูแลที่กำหนดให้ซิตี้แก้ไขปัญหาเหล่านี้

    นางเจน เฟรเซอร์ ผู้สืบทอดตำแหน่งของคอร์แบท กล่าวว่าการปรับปรุงความเสี่ยงและการควบคุมเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ธนาคารยังคงถูกปรับ 136 ล้านดอลลาร์โดยหน่วยงานกำกับดูแลเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าเพียงพอในการปรับปรุง

ที่มา CNBC