.
![](../image/news/content_20250207061709.jpg)
“สี จิ้นผิง” แนะยกระดับความสัมพันธ์ไทย-จีน สู้ภาวะความไม่แน่นอนทั่วโลก
7-2-2025
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เรียกร้องให้ จีนและไทยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นขึ้น และเชื่อใจกันมากขึ้น พร้อม ๆ กับขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยรับมือสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
คำกล่าวของผู้นำจีนนี้มีออกมาระหว่างการประชุมกับนายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเดินทางเยือนจีนเป็นเวลา 4 วันของผู้นำรัฐบาลไทย
จีนเป็นหมุดหมายการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นรับตำแหน่งของนายกฯ แพทองธาร และยังเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตของสองประเทศด้วย
สื่อ CCTV รายงานว่า ปธน.สี กล่าวว่า “ในภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 100 ปีนี้ จีนและไทยควรยกระดับความไว้วางใจระหว่างกันในด้านผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ให้มากขึ้น และสนับสนุนกันและกันอย่างหนักแน่นไปด้วย”
รอยเตอร์รายงานด้วยว่า ผู้นำจีนยกตัวอย่างความร่วมมือระหว่างสองประเทศที่จะช่วยส่งเสริมความใกล้ชิด อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองคุนหมิงทางใต้ของจีน รวมทั้งโครงการเศรษฐกิจดิจิทัลและรถพลังงานไฟฟ้า
ในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นการหลอกลวงทางออนไลน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นประเด็นที่ทางการไทยและจีนมีความกังวลมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังกรณีที่นักแสดงหนุ่ม หวัง ซิง ถูกลักพาตัวจากไทยไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือกลับมา
ในเรื่องนี้ นายกฯ แพทองธารกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างที่สุดต่อความปลอดภัยของผู้ที่มาเยือนประเทศไทย และว่า “ไทยยินดีจะทำงานร่วมกับจีนในการปราบปรามกิจกรรมอาชญากรรมต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในประเทศไทย”
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐบาลไทยประกาศว่าจะทำการตัดไฟที่จ่ายเข้าสู่พื้นที่ติดชายแดนเมียนมา เพื่อสกัดการทำงานของแก๊งต้มตุ๋นต่าง ๆ
ปธน.สี กล่าวว่า จีนขอบคุณที่ทางการไทยดำเนินมาตรการทั้งหลายเพื่อจัดการกับขบวนการมิจฉาชีพทางโทรคมนาคมและการพนันออนไลน์ พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศเดินหน้ายกระดับการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายและความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมและความมั่นคงเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตามรายงานของรอยเตอร์
ที่มา: รอยเตอร์
------------------------------------------
ผู้บริหารหอการค้าไทย-จีน ขอบคุณ หลังนายกฯ ยืนยันความพร้อมของนักธุรกิจไทย เพื่อส่งเสริมการค้า พร้อมผลักดันความร่วมมือกันอำนวยความสะดวก ด้านการค้าและการลงทุน มั่นใจค้าขายสินค้าไทย-จีนนับจากนี้ เติบโตมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ และชื่นชมบทบาทของสมาชิกหอการค้าไทยในจีนที่มีส่วนช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนระหว่างไทยกับจีนมาอย่างต่อเนื่อง การพบหารือครั้งนี้ทำให้ได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของผู้ประกอบการไทยในจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมรับฟังข้อเสนอเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินการต่อไป
นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความพร้อมของไทยในการส่งเสริมการค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งเสนอและผลักดันให้ไทยกับจีนเร่งร่วมมือกันในการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน และการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยสินค้า
นายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานหอการค้าไทยจีน ได้นำนักธุรกิจทั้งไทยและจีน เข้าพบปะหารือครั้งนี้ กล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ มากมาย และในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ ประเทศไทยมีโอกาสใช้ความสัมพันธ์ ครบ 50 ปีนี้ในการเดินหน้าความร่วมมือและขจัดอุปสรรคต่างๆ ร่วมกัน พร้อมกล่าวเสนอแนะถึงการส่งเสริมความร่วมมือต่างๆ เช่น การเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านสินค้าและบริการ soft power รวมถึงมาตรการส่งเสริมและการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุน
(หอการค้าไทยในจีน (Thai Chamber of Commerce in China: TCCC) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพียงองค์กรเดียวของไทยที่มีการจดทะเบียนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงกิจการพลเรือนจีน และมีสถานะเป็นที่ยอมรับตามกฎหมายของจีน มีจำนวนสมาชิก มากกว่า 100 ราย
ปัจจุบัน TCCC มีสำนักงานเครือข่ายในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หนานหนิง ชิงเต่า และกรุงเทพฯ และได้รับเลือกเป็นพันธมิตรกับ Invest Beijing Global Partner เป็นคณะกรรมการใน Shanghai Investment Partnership และ Interchamber มีการลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในจีนมากกว่า 30 องค์กร).
ที่มา -สำนักข่าวไทย