ทองคำกระดาษ vs ทองคำจริง เมื่อตลาดการเงินบิดเบือนราคาทองคำโลก
26-12-2024
ทองคำกระดาษ: มายาการลงทุนที่บิดเบือนตลาดทองคำโลก ตลาดการเงินโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อการซื้อขายทองคำในรูปแบบตราสารอนุพันธ์ หรือที่เรียกว่า "ทองคำกระดาษ" มีมูลค่าการซื้อขายมหาศาลจนบิดเบือนกลไกราคาทองคำจริง โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำในตลาด Chicago Mercantile Exchange (CME) มีมูลค่าการซื้อขายหลายร้อยพันล้านดอลลาร์ ขณะที่ปริมาณทองคำที่ขุดได้ทั้งหมดในโลกมีเพียง 200,000 เมตริกตันเท่านั้น
กรณีที่สะท้อนให้เห็นปัญหาชัดเจนคือ เมื่อธนาคารยักษ์ใหญ่ JPMorgan Chase ถูกจับได้ว่ามีการส่งคำสั่งหลอกในตลาดซื้อขายล่วงหน้าทองคำและเงิน โดยส่งคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่โดยไม่มีเจตนาจะทำการซื้อขายจริง เพื่อสร้างภาพว่ามีความต้องการในตลาดและผลักดันราคาไปในทิศทางที่ต้องการ ส่งผลให้ในปี 2020 JPMorgan ต้องจ่ายค่าปรับถึง 920 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ยังพบว่าธนาคารระดับโลกอื่นๆ อย่าง Deutsche Bank และ Citigroup ก็เคยถูกตรวจพบการกระทำในลักษณะเดียวกัน สะท้อนให้เห็นว่าการฉ้อโกงในตลาดทองคำกระดาษกลายเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบธุรกิจของสถาบันการเงินขนาดใหญ่
สถานการณ์นี้ยิ่งชัดเจนขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 ปี 2020 เมื่อราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ทองคำแท่งและเหรียญทองคำจริงกลับหาซื้อได้ยาก ใช้เวลาส่งมอบนานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขณะที่ราคาทองคำในตลาดอนุพันธ์ยังคงซื้อขายในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นความแตกต่างระหว่างราคาทองคำจริงและทองคำกระดาษอย่างชัดเจน
ปรากฏการณ์นี้ย้อนรอยไปถึงวิกฤตการเงินปี 2008 เมื่อสถาบันการเงินจำนวนมากประสบปัญหาสภาพคล่อง จนเกิดความกังวลว่าตลาดอนุพันธ์อย่าง CME จะสามารถรับมือได้หรือไม่หากนักลงทุนพร้อมใจกันมาขอรับมอบทองคำจริงพร้อมกัน
ที่น่าห่วงคือผู้บริหารของธนาคารเหล่านี้บางคนยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) มีส่วนในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินของประเทศ ทั้งที่องค์กรของตนเองเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปั่นราคาและการฉ้อโกงในตลาดการเงิน
แม้จะมีการจับกุมและลงโทษ แต่บทลงโทษที่ได้รับกลับเบาเกินไปเมื่อเทียบกับผลประโยชน์มหาศาลที่ได้รับ เช่น กรณีหัวหน้าฝ่ายค้าโลหะมีค่าของ JPMorgan และลูกน้องถูกจำคุกเพียง 1-2 ปี และจ่ายค่าปรับที่น้อยกว่าเงินเดือนหลายล้านดอลลาร์ที่เคยได้รับ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าตราสารอนุพันธ์ทองคำมีประโยชน์ในแง่การสร้างสภาพคล่อง แต่ขณะเดียวกันก็เปิดช่องให้เกิดการบิดเบือนราคาจากความเป็นจริง โดยในทางทฤษฎีราคาทองคำควรถูกกำหนดจากอุปสงค์และอุปทานของทองคำจริง ทั้งจากการผลิตเหมืองแร่ การรีไซเคิล การซื้อของธนาคารกลาง ความต้องการจากอุตสาหกรรมเครื่องประดับและเทคโนโลยี รวมถึงนักลงทุนรายย่อย
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ที่มหาศาลทำให้ราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวได้แม้จะมีการเปลี่ยนมือทองคำจริงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย นักลงทุนสถาบันสามารถขายสัญญาล่วงหน้าจำนวนมากโดยไม่มีเจตนารับมอบทองคำจริง ส่งผลให้กิจกรรมเก็งกำไรในตลาดอนุพันธ์บดบังปัจจัยพื้นฐานของตลาดทองคำจริง
นักวิเคราะห์แนะนำว่า หากต้องการใช้ทองคำเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนทางการเงิน ควรถือครองทองคำจริงมากกว่าการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ เพราะในภาวะวิกฤต ราคาทองคำกระดาษอาจแยกตัวออกจากราคาทองคำจริง และนักลงทุนอาจถือครองเพียงสัญญาที่ไม่สามารถแลกเป็นทองคำจริงได้ในที่สุด
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.schiffgold.com/key-gold-news/paper-gold-scams-markets-and-reality