ฐานทัพอากาศสหรัฐฯในแปซิฟิก เสี่ยงถูกจีนถล่มยับ'ก่อนเริ่มสงคราม
14-1-2025
เปิดรายงานชี้จุดอ่อน วิกฤตฐานบินสหรัฐฯ ในแปซิฟิก เสี่ยงถูกจีนโจมตีก่อนเริ่มสงคราม จีนทิ้งห่างสร้างที่กำบังเครื่องบิน ขณะที่สหรัฐฯ แทบไม่ลงทุนเพิ่ม
Asia Time รายงานว่า Hudson Institute เผยรายงานฉบับใหม่เตือนสถานการณ์วิกฤตของฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในภูมิภาคแปซิฟิก ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อการถูกโจมตีจากขีปนาวุธและกำลังทางอากาศพิสัยไกลของจีน โดยอาจได้รับความเสียหายอย่างหนักก่อนที่ความขัดแย้งจะเริ่มต้นด้วยซ้ำ
ในรายงานระบุว่า ในขณะที่กองทัพจีนได้เพิ่มจำนวนที่พักพิงเครื่องบินที่มีความแข็งแกร่งเป็นกว่า 3,000 แห่ง พร้อมทั้งขยายรันเวย์อย่างกว้างขวาง แต่กองทัพสหรัฐฯ กลับเพิ่มเพียง 2 แห่งนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2010 ความแตกต่างนี้ส่งผลให้ฐานทัพอากาศสหรัฐฯ มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธความแม่นยำสูง โดยคาดการณ์ว่าความสูญเสียของเครื่องบินส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในขณะที่จอดอยู่บนพื้นดิน
ขณะที่นิตยสาร The War Zone รายงานในเดือนธันวาคม 2024 ว่า แผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานฉบับใหม่ (I2AP) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ละเว้นการวางแผนสร้างที่พักพิงเครื่องบินที่แข็งแกร่งเพิ่มเติม แม้จะยอมรับว่าฐานทัพไม่สามารถเป็นสถานที่ปลอดภัยได้อีกต่อไป แผนดังกล่าวมุ่งเน้นที่ความยืดหยุ่นและการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วมากกว่าการเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพ
สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จำนวน 13 คน นำโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจอห์น มูเลนาร์ และวุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ ได้ส่งจดหมายถึงผู้บริหารระดับสูงของกองทัพในเดือนพฤษภาคม 2024 เรียกร้องให้เร่งปรับปรุงระบบป้องกัน โดยระบุว่าขีปนาวุธขั้นสูงของจีนกำลังคุกคามฐานทัพสหรัฐฯ ทั้งหมดในภูมิภาค รวมถึงฐานทัพอากาศแอนเดอร์สันในกวมและหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา
ศูนย์วิจัย Stimson เผยรายงานในเดือนธันวาคม 2024 โดย Kelly Grieco และคณะ ระบุว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธของจีนสามารถทำให้การปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ ในอินโด-แปซิฟิกอัมพาต โดยการโจมตีรันเวย์และทางขับเครื่องบินหลัก อาจทำให้เครื่องบินขับไล่ต้องหยุดบินนานถึง 12 วัน และเครื่องบินเติมน้ำมันต้องหยุดบินนานกว่าหนึ่งเดือน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้จีนบรรลุเป้าหมายทางทหาร เช่น การยึดไต้หวัน ก่อนที่กองกำลังสหรัฐฯ จะฟื้นตัว
รายงานพลังทางทหารของจีนประจำปี 2024 โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า จีนมีความก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนากองกำลังการบินและขีปนาวุธพิสัยไกล โดยได้บูรณาการเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ Y-20U เพื่อขยายขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศระยะไกล พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน H-20 และขีปนาวุธสมัยใหม่หลายรุ่น เช่น DF-27 ที่มีพิสัยการยิงไกลถึง 8,000 กิโลเมตร และ DF-17 ที่ติดตั้งยานร่อนความเร็วเหนือเสียง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการโจมตีอย่างแม่นยำในแปซิฟิกตะวันตก
---
IMCT NEWS : Photo: US Air Force
ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/us-pacific-airfields-highly-vulnerable-to-chinas-preemptive-attack/