ประชาชนโรมาเนียหลายหมื่นคนออกมาประท้วงการยกเลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี

14-1-2025

     เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้คนหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนบนถนนในกรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของโรมาเนีย เพื่อประท้วงต่อต้านศาลรัฐธรรมนูญที่พิจารณาตัดสินให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นโมฆะ

     ศาลได้เพิกถอนผลการแข่งขันรอบแรกในเดือนธันวาคม หลังจากที่ผู้สมัครอิสระ คาลิน จอร์จสคู ได้คะแนนมากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ ทั้งหมด

    วิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นผู้ประท้วงในบูคาเรสต์บีบแตรและโบกธงโรมาเนีย ตะโกน “เสรีภาพ” และ “นำการเลือกตั้งรอบสองกลับมา” มีผู้เห็นบางคนถือรูปถ่ายของจอร์จสคูหรือสัญลักษณ์ของชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ และคนอื่นๆ มีป้ายข้อความว่า “ประชาธิปไตยไม่ใช่ทางเลือก” และ “เราต้องการการเลือกตั้งที่เสรี”

      มีผู้คนมากกว่า 100,000 คนเข้าร่วมในการประท้วง สื่อระบุ โดยอ้างข้อมูลจากผู้จัดงาน มีรายงานว่าตำรวจประเมินตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่ามาก

     “เรากำลังประท้วงต่อต้านการรัฐประหารที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม” จอร์จ ซิเมียน ผู้นำกลุ่มพันธมิตรขวาจัดเพื่อความสามัคคีของชาวโรมาเนีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างงานดังกล่าว

“เราเสียใจที่พบว่าสายไปมากที่เราใช้ชีวิตอยู่กับการโกหกและเราถูกชักนำโดยผู้คนที่อ้างว่าเป็นพรรคเดโมแครต แต่ไม่ใช่เลย” ไซเมียนกล่าว พร้อมเสริมว่า “เราเรียกร้องการคืนสู่ประชาธิปไตยผ่านการกลับมาเริ่มต้นใหม่ของการเลือกโดยต้องเริ่มตั้งแต่รอบที่สอง”

ในระหว่างการลงคะแนนเสียงรอบแรกในเดือนพฤศจิกายน Georgescu ได้รับคะแนนเสียง 22.94% เอาชนะผู้สมัครฝ่ายซ้ายเสรีนิยม Elena Lasconi ที่ได้รับ 19.18%

     ศาลได้เพิกถอนชัยชนะของ Georgescu ก่อนการลงคะแนนเสียงรอบสอง โดยอ้างถึงข้อหนึ่งในกฎหมายของประเทศที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรับรองความถูกต้องและถูกต้องตามกฎหมายของการเลือกตั้ง คณะตุลาการประกาศว่าจะดำเนินการอีกครั้งในภายหลัง

     Georgescu ยืนยันว่าอำนาจของประชาชนเป็นพื้นฐานสำหรับรัฐประชาธิปไตย และเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องเคารพผลการลงคะแนนเสียงของประชาชน เขาอ้างว่ารัฐบาลโรมาเนียชุดปัจจุบันกลัวการสูญเสียอำนาจ

     การยกเลิกดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางข้อกล่าวหาว่ามอสโกสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของจอร์จสคู ซึ่งถูกมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียตอบกลับว่า “ไม่มีเหตุผลอย่างยิ่ง” เธอตั้งข้อสังเกตว่าการเลือกตั้งโรมาเนียเกิดขึ้นท่ามกลาง “กระแสฮิสทีเรียต่อต้านรัสเซียที่เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ซึ่งถูกกำหนดให้ “มีอิทธิพลต่อจิตสำนึกและเจตจำนงของพลเมืองของประเทศ”

    Georgescu เป็นนักชาตินิยมทางศาสนา วิพากษ์วิจารณ์ทั้งนาโต้และสหภาพยุโรป และคัดค้านการมีส่วนร่วมของโรมาเนียในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน เขาให้คำมั่นที่จะยุติความช่วยเหลือทางทหารและการเมืองทั้งหมดต่อเคียฟ หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี

      Georgescu อ้างว่า NATO กำลังใช้โรมาเนียเป็น "ประตูสู่สงคราม" โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดการโจมตีครั้งใหญ่ในรัสเซีย เขาได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการสะสมกำลังทหารที่ฐานทัพอากาศมิฮาอิล โคกัลนิเซนู (MK) ซึ่งเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของ NATO ใกล้ทะเลดำ

RT