สหรัฐฯ เร่งรับมืออิทธิพลจีนในเอเชียกลาง ทรัมป์'ต้องประนีประนอมรัสเซีย-อิหร่าน-อินเดีย

14-1-2025

    เส้นทางรถไฟจีน-คีร์กีซฯ-อุซเบกิสถาน" เปิดฉาก! เตือนสหรัฐฯ เร่งรับมืออิทธิพลจีนในเอเชียกลาง

     Andrew Korybko จาก Asia Time รายงานว่า อิทธิพลของจีนในภูมิภาคเอเชียกลางกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว สะท้อนผ่านพิธีเปิดโครงการเส้นทางรถไฟจีน-คีร์กีซสถาน-อุซเบกิสถาน เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 6 ปี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการค้าในภูมิภาคที่สหรัฐฯ ได้ถอนตัวออกไปนับตั้งแต่การถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานในปี 2021

    ข้อมูลล่าสุดในปี 2023 แสดงให้เห็นว่า การค้าระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศเอเชียกลาง ซึ่งประกอบด้วย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน มีมูลค่าสูงถึง 89,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยสหภาพยุโรป 53,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรัสเซีย 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การค้าระหว่างสหรัฐฯ กับภูมิภาคนี้ในปี 2022 มีมูลค่าเพียง 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

    นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้สหภาพยุโรปจะมีมูลค่าการค้าสูง แต่ส่วนใหญ่เป็นการขนส่งสินค้าผ่านไปยังรัสเซียเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร ทำให้ตัวเลขการค้าที่แท้จริงต่ำกว่าที่ปรากฏ และส่งผลให้จีนมีอิทธิพลมากกว่าที่ข้อมูลแสดง

    ในขณะที่อินเดียและอิหร่านมีการค้ากับภูมิภาคนี้เพียง 2,000 และ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ แม้จะมีความร่วมมือในเส้นทางการขนส่งระหว่างประเทศเหนือ-ใต้ และการยกเว้นการคว่ำบาตรสำหรับอินเดียในการค้าผ่านท่าเรือชาบาฮาร์ของอิหร่าน

     ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากรัฐบาล "ทรัมป์ 2.0" ต้องการสกัดอิทธิพลของจีนในภูมิภาคนี้ จำเป็นต้องตัดสินใจเชิงนโยบายที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) ทบทวนมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียบางส่วนที่ไม่ได้ผลตามเป้าหมาย 2) ต่ออายุการยกเว้นการคว่ำบาตรให้อินเดียในการค้าผ่านอิหร่าน และ 3) ยุติการกดดันจอร์เจียเพื่อรักษาเส้นทางการค้าของสหภาพยุโรปกับเอเชียกลาง

      นอกจากนี้ ยังแนะนำให้สหรัฐฯ มีบทบาทนำในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างอาร์เมเนียกับอาเซอร์ไบจานเกี่ยวกับ "ทางเดินซังเกซูร์" เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจบานปลาย หลังจากประธานาธิบดีอิลฮัม อาลีเยฟ แห่งอาเซอร์ไบจาน ออกมาเรียกร้องให้เปิดเส้นทางดังกล่าวและใช้ถ้อยคำแข็งกร้าวต่ออาร์เมเนีย

การดำเนินการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการปล่อยให้จีนขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้จะส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการสูญเสียอำนาจต่อรองของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในการควบคุมเส้นทางขนส่งพลังงานทางทะเล รวมถึงการที่จีนจะสามารถเพิ่มการค้ากับอิหร่านผ่านเส้นทางบก ซึ่งจะบั่นทอนประสิทธิผลของนโยบาย "กดดันสูงสุด" ต่ออิหร่านที่ทรัมป์วางแผนจะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่

---

IMCT NEWS :  Image: X Screengrab

ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/how-trump-can-break-chinas-tightening-grip-on-central-asia/