จีนรุกละตินอเมริกา หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง 'สี จิ้นผิง' ปักธงท่าเรือเปรู สร้างเครือข่ายการค้าทางทะเล

11-1-2025

     รายงานจาก Asia Time เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน เดินหน้าขยายอิทธิพลในละตินอเมริกาทันทีหลังโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ด้วยการเข้าร่วมพิธีเปิดท่าเรือน้ำลึกมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์ในเปรู พร้อมลงนามข้อตกลงขยายการค้าเสรี ประกาศเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางทางทะเล

     ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในภูมิภาค โดยในรอบ 20 ปี การค้าระหว่างจีนกับละตินอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2002 เป็น 5 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2023 และยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2024 การส่งออกของจีนไปยังภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น 20.6%

    นักวิเคราะห์ชี้ว่า นโยบายเผชิญหน้าของทรัมป์ในสมัยแรกผลักดันให้หลายประเทศในละตินอเมริกาหันไปพึ่งพาจีนมากขึ้น โดยเฉพาะบราซิลที่การค้ากับสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดในรอบ 11 ปี ขณะที่การค้ากับจีนเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ สาธารณรัฐโดมินิกัน เอลซัลวาดอร์ และปานามา ยังได้ถอนการรับรองไต้หวันและหันไปสนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่

     ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า นโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" และท่าทีต่อต้านการอพยพของทรัมป์ อาจผลักดันให้ประเทศในละตินอเมริกากระชับความสัมพันธ์กับจีนมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อจีนนำเสนอตัวเองในฐานะพันธมิตรที่เคารพอธิปไตยและไม่แทรกแซงกิจการภายใน พร้อมเสนอการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานผ่านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่มีเงื่อนไขน้อยกว่าความช่วยเหลือจากชาติตะวันตก

    จีนได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในภูมิภาคนี้อย่างมหาศาลในทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงการสร้างสถานีอวกาศในอาร์เจนตินา ขณะที่ท่าเรือชานเคย์ในเปรูอาจถูกใช้เป็นประตูหลังเลี่ยงภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ทรัมป์ขู่จะเพิ่มขึ้น ด้านการถอนตัวจากองค์กรพหุภาคีของสหรัฐฯ ยิ่งเปิดโอกาสให้จีนขยายอิทธิพลผ่านการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับประเทศที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจหลังโควิด-19

ดร.โฮเซ กาบาเยโร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากศูนย์การแข่งขันระดับโลก IMD มองว่า แนวทางไม่แทรกแซงกิจการภายในและการเคารพอธิปไตยของจีน รวมถึงการวางตำแหน่งตัวเองเป็นประเทศกำลังพัฒนาเช่นเดียวกับละตินอเมริกา ทำให้จีนได้เปรียบสหรัฐฯ ที่มีประวัติการแทรกแซงภูมิภาคนี้มายาวนาน

---

IMCT NEWS

ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/china-and-latin-america-facing-trump-may-seek-even-stronger-ties/