'ยึดทรัพย์รัสเซีย ย้อนทำร้ายสหรัฐฯ'คว่ำบาตรตัวเอง'  ธนาคารกลางทั่วโลกทิ้งพันธบัตร-หันซื้อทองคำ-ขาดความเชื่อมั่น$

10-1-2025

     Asia Time รายงานว่า การที่สหรัฐฯ และพันธมิตรยึดเงินสำรองต่างประเทศของรัสเซียครึ่งหนึ่งมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ในต้นปี 2022 หลังการบุกยูเครน ได้ย้อนกลับมาสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เอง เมื่อธนาคารกลางทั่วโลกลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และหันไปถือทองคำแทน

     อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นได้กลายเป็นปัจจัยหลักที่กดดันตลาดการเงินโลก ทั้งกดดันตลาดหุ้น หนุนดอลลาร์แข็งค่า และคุกคามภาคอสังหาริมทรัพย์และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ย ขณะที่การชำระดอกเบี้ยหนี้รัฐบาลกลางพุ่งจาก 4 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2021 เป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มภาระการกู้ยืมที่สูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์

     ธนาคารกลางต่างประเทศ รวมถึงจีน อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และตุรกี เริ่มลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ และเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรอง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น 0.8% การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าการเปลี่ยนแปลงการถือครองพันธบัตรของธนาคารกลางต่างประเทศสามารถทำนายการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้

     สถานการณ์นี้แตกต่างจากช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2007-2012 ที่จีนและธนาคารกลางอื่นๆ เข้าช่วยซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ เพิ่มเป็นสองเท่าจาก 2 เป็น 4 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ในวิกฤตโควิด-19 ปี 2020 กลับลดการถือครองลง

     ปรากฏการณ์นี้ยังอธิบายการแยกตัวของราคาทองคำจากผลตอบแทนพันธบัตร หลังจากที่เคยเคลื่อนไหวไปด้วยกันมา 15 ปี เนื่องจากทั้งสองสินทรัพย์เป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของดอลลาร์ แต่พันธบัตรมีความเสี่ยงจากการถูกยึด ขณะที่ทองคำในห้องนิรภัยธนาคารกลางไม่สามารถถูกยึดได้

     เมื่อเศรษฐกิจตะวันตกสำคัญทั้งหมดมีการขาดดุลสูง เสถียรภาพของหนี้รัฐบาลจึงไม่แน่นอน ส่งผลให้ทองคำมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของสกุลเงิน การที่วอชิงตันยึดทรัพย์สินรัสเซียจึงย้อนมาทำลายความเชื่อมั่นในระบบการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเพิ่มต้นทุนกู้ยืมในจังหวะที่รัฐบาลต้องการเงินกู้มากที่สุด

---

IMCT NEWS

ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/how-the-us-sanctioned-itself-in-ukraine/