อินโดนีเซียเข้า BRICS ประเทศที่ 10 เสริมแกร่งอาเซียน ปูทางสู่โลกหลายขั้วอำนาจ
9-1-2025
ปราโบโว' นำอินโดนีเซียเข้า BRICS เสริมแกร่งอาเซียน วางบทบาทสร้างสมดุลมหาอำนาจ
อินโดนีเซียเข้า BRICS ปูทางสู่โลกหลายขั้วอำนาจ ย้ำไม่ทิ้งพันธมิตรตะวันตก อินโดนีเซียได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยจีนและรัสเซีย ด้วยการนำเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคเข้าร่วม
โรลเลียนซยาห์ โซเอมีรัต โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวกับสำนักข่าว DW ว่า "BRICS เป็นเวทีสำคัญสำหรับอินโดนีเซียในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา และทำให้มั่นใจว่าเสียงและความต้องการของประเทศในซีกโลกใต้จะได้รับการรับฟังในเวทีการตัดสินใจระดับโลก" พร้อมย้ำว่าจาการ์ตามุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในวาระสำคัญของ BRICS ทั้งด้านการเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี และสาธารณสุข
การตัดสินใจครั้งนี้แตกต่างจากท่าทีของอดีตประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ที่ปฏิเสธการเข้าร่วม BRICS ในปี 2023 โดยระบุว่าต้องการพิจารณาข้อดีข้อเสียให้รอบคอบก่อน แต่ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ผู้ชนะการเลือกตั้งปี 2024 กลับมีมุมมองต่างออกไป
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนภาพใหญ่ของการเมืองโลกที่กำลังเปลี่ยนไป เมื่อระเบียบโลกที่นำโดยตะวันตกเผชิญความท้าทายจากความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ สงครามในยูเครนและตะวันออกกลาง ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากเริ่มขยับเข้าใกล้จีนและรัสเซียมากขึ้น แม้จะเสี่ยงต่อการสร้างความไม่พอใจให้วอชิงตัน ปัจจุบันมีกว่า 30 ประเทศ รวมถึงไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ที่แสดงความสนใจหรือยื่นใบสมัครเข้าร่วม BRICS แล้ว
การขยายตัวของ BRICS สู่การเป็นกลุ่มพลังทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่ขึ้น เป็นผลจากการผงาดขึ้นของจีนในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก โดยปักกิ่งมักเรียกร้องให้เกิด "โลกหลายขั้วอำนาจ" ที่ไม่ถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ แต่เพียงผู้เดียว สมาชิก BRICS ยังถกเถียงถึงการครอบงำของเงินดอลลาร์สหรัฐในระบบการเงินโลก และความจำเป็นในการสร้างกรอบการเงินทางเลือกระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า BRICS ไม่ใช่กลุ่มที่ต่อต้านตะวันตกโดยตรง เอ็ม. ฮาบิบ อาบิยัน ดซักวาน นักวิจัยจากศูนย์การศึกษากลยุทธ์และระหว่างประเทศ (CSIS) อินโดนีเซีย ยืนยันว่า "อินโดนีเซียไม่มีเจตนาแยกตัวจากตะวันตก" โดยนโยบายต่างประเทศของจาการ์ตายึดหลัก "มิตรกับทุกฝ่าย" และต้องการเพียง "เพิ่มพื้นที่การแข่งขัน" เท่านั้น
ด้าน เตากู เรซาชยาห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยปัดจัดจารัน มองว่าอินโดนีเซียสามารถเป็น "ตัวสร้างดุลยภาพ" ในกลุ่ม BRICS พร้อมๆ กับรักษาความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป โดยการเป็นสมาชิก BRICS จะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองและบทบาทนำของอินโดนีเซียในเวทีโลก
ทั้งนี้ ความท้าทายอาจเพิ่มขึ้นเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ารับตำแหน่งในเดือนนี้ โดยคาดว่าวอชิงตันจะถอนตัวจากความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ทรัมป์ขู่ในเดือนพฤศจิกายนว่าจะตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศสมาชิก BRICS หากมีการสร้าง "สกุลเงิน BRICS" ขึ้นมา
กลุ่ม BRICS ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยบราซิล รัสเซีย จีน และอินเดีย ก่อนที่แอฟริกาใต้จะเข้าร่วมหลังการประชุมสุดยอดครั้งแรก ล่าสุดในปี 2024 มีสมาชิกใหม่เพิ่มเติมคือ อียิปต์ อิหร่าน เอธิโอเปีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้กลุ่มนี้กำลังก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกใหม่เทียบเคียงกับกลุ่ม G7 ที่นำโดยสหรัฐอเมริกา
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.dw.com/en/what-will-change-with-indonesia-entering-brics/a-71240863
----------------------
อินโดนีเซียเป็นสมาชิก BRICS อย่างเป็นทางการประเทศแรกในอาเซียน
ขอบคุณภาพจาก The Jakarta Post
9-1-2025
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ม.ค.) รัฐบาลบราซิลประกาศว่าอินโดนีเซียได้รับการรับรองให้เป็นสมาชิกเต็มตัวของกลุ่มประเทศ BRICS หลังจากแสดงความสนใจที่จะเป็นสมาชิกเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยบราซิลซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มในปีนี้ กล่าวในแถลงการณ์ว่าประเทศสมาชิกได้อนุมัติให้อินโดนีเซียเข้าร่วมกลุ่มโดยฉันทามติ ทำให้เป็นประเทศแรกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าร่วมกลุ่มเศรษฐกิจนี้
รัฐบาลบราซิลกล่าวในแถลงการณ์ว่า “รัฐบาลบราซิลยินดีที่อินโดนีเซียเข้าร่วมกลุ่ม BRICS” โดย “อินโดนีเซียมีประชากรและเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีพันธสัญญาร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ในการปฏิรูปสถาบันการกำกับดูแลระดับโลก และมีส่วนสนับสนุนในเชิงบวกต่อการขยายความร่วมมือใต้-ใต้”
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7 ม.ค.) กระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า ยินดีต้อนรับการประกาศของรัฐบาลบราซิล และระบุว่าการเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS เป็น “วิธีเชิงกลยุทธ์ในการเพิ่มความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ”
กลุ่ม BRICS ซึ่งตั้งชื่อตามสมาชิกหลัก ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ได้ขยายกลุ่มออกไปแล้ว ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุมสุดยอด BRICS ในปี 2023 ที่นครโจฮันเนสเบิร์ก
เมื่อปีที่แล้ว (2024) กลุ่ม BRICS ได้รวมซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน เอธิโอเปีย อียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ไว้ด้วยกัน ขณะเดียวกันก็ได้นำประเทศอื่นอีก 13 ประเทศเข้าร่วมในฐานะ “ประเทศพันธมิตร”
การเสนอตัวเป็นสมาชิกของอินโดนีเซียได้รับการอนุมัติในปี 2023 แต่ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดเลือกที่จะไม่ดำเนินการตามแผน โดยกล่าวว่าเขาต้องการชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของการเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งผลให้อินโดนีเซียไม่อยู่ในกลุ่มสมาชิกใหม่ที่ประกาศในการประชุมสุดยอดที่นครโจฮันเนสเบิร์ก
ในเดือนตุลาคม (2024) ระหว่างการประชุมสุดยอดประจำปีของกลุ่ม BRICS ที่เมืองคาซานของรัสเซีย ซูจิโอโน รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ปราโบโว สุเบียนโต ผู้สืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีจากโจโกวี ซึ่งเพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ได้ตัดสินใจว่าอินโดนีเซียจะแสวงหาโอกาสในการเข้าสมาชิกเต็มตัวของกลุ่ม BRICS
ในการประกาศครั้งนี้ ซูจิโอโนกล่าวว่าการแสวงหาสมาชิกกลุ่ม BRICS "สะท้อนถึงนโยบายต่างประเทศที่กระตือรือร้นและเสรีของประเทศ" และสอดคล้องกับลำดับความสำคัญหลักของรัฐบาลของนายปราโบโว ซึ่งรวมถึง "ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน การขจัดความยากจน ตลอดจนการพัฒนาทุนมนุษย์" ซึ่งซูจิโอโนเสริมว่า "ไม่ได้หมายความว่าเราเข้าร่วมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เราจะเข้าร่วมอย่างแข็งขันในทุกเวที"
นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงลักษณะที่ยืดหยุ่นของประเพณีนโยบายต่างประเทศที่ "เสรีและกระตือรือร้น" ของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเหตุผลที่โจโกวีตัดสินใจไม่เข้าร่วมกลุ่มแล้ว การเปลี่ยนแปลงจุดยืนของรัฐบาลอินโดนีเซียเกี่ยวกับกลุ่ม BRICS ยังสะท้อนถึงแนวทางที่แตกต่างกันระหว่างโจโกวีและปราโบโวอีกด้วย
การยกระดับของอินโดนีเซียสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีต่อกลุ่ม BRICS ซึ่งได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นทางเลือกแทนสถาบันระดับโลกที่ถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ เมื่อปีที่แล้ว (2024) ทั้งมาเลเซียและไทยประกาศว่าได้สมัครเป็นสมาชิก BRICS อย่างเป็นทางการแล้วในเดือนตุลาคม ซึ่งทั้งสองประเทศข้างต้น รวมถึงอินโดนีเซียและเวียดนาม อยู่ในกลุ่มประเทศพันธมิตร 13 ประเทศของกลุ่ม BRICS ซึ่งได้แก่แอลจีเรีย เบลารุส โบลิเวีย คิวบา คาซัคสถาน ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา และอุซเบกิสถาน
ขณะที่นักสังเกตการณ์ชาวตะวันตกหลายคนยังคงสงสัยเกี่ยวกับความยั่งยืนและความสามัคคีของกลุ่ม BRICS ในฐานะกลุ่มระหว่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นความท้าทายต่อประชาธิปไตยในโลกตะวันตกอีกด้วย เป็นที่ชัดเจนว่าประเทศผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มมองว่าการเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS เป็นช่องทางในการขยายทางเลือกทางเศรษฐกิจและการทูตมากขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดระหว่างประเทศกำลังทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้อินโดนีเซียและประเทศเพื่อนบ้านระมัดระวังต่อความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีน รัสเซีย และโลกตะวันตก จึงมุ่งมั่นที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับทั้งสองฝ่าย
IMCT News
ที่มา https://thediplomat.com/2025/01/indonesia-officially-becomes-first-southeast-asian-member-of-brics/