สหรัฐฯโจมตีนิวเคลียร์อิหร่านกระตุ้นจีน-เกาหลีเหนือ

สหรัฐฯ โจมตีนิวเคลียร์อิหร่าน เสี่ยงกระตุ้นจีน-เกาหลีเหนือเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
28-6-2025
SCMP รายงานว่า การโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยสหรัฐฯ และอิสราเอลเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2025 อาจส่งผลตรงข้ามกับเป้าหมายการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ หลังนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศออกมาเตือนว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เสี่ยงกระตุ้นให้จีนและเกาหลีเหนือเร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังกองทัพสหรัฐฯ ใช้เครื่องบินรบกว่า 125 ลำ และเรือดำน้ำโจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่านด้วยอาวุธ bunker-buster bombs โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันล่วงหน้าก่อนอิหร่านจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์สำเร็จ
ผลกระทบต่อสนธิสัญญา NPT
สภานิติบัญญัติอิหร่านมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ระงับความร่วมมือกับ International Atomic Energy Agency (IAEA) ทันทีหลังการโจมตี นายไลล์ โกลด์สไตน์ (Lyle Goldstein) ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของสถาบัน Defence Priorities ระบุว่า การกระทำนี้ "ทำลายความน่าเชื่อถือของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)" อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะรัฐสมาชิกทุกประเทศมีสิทธิพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ
ความกังวลในเอเชีย
นายเจา ตง (Zhao Tong) นักวิจัยอาวุโสจาก Carnegie Endowment for International Peace เปิดเผยว่า การโจมตีครั้งนี้กระตุ้นให้หลายประเทศรีประเมินความปลอดภัยของโครงการนิวเคลียร์พลเรือน โดยเฉพาะจีนที่อาจกังวลต่อความเปราะบางของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบฟาสต์บริดเดอร์ในมณฑลฝูเจี้ยน หลังสหรัฐฯ อ้างว่าโรงงานแห่งนี้ผลิตพลูโทเนียมสำหรับอาวุธ
ผลกระทบต่อจีนและเกาหลีเหนือ
- เกาหลีเหนือ: ดร.ทิโมธี ฮีธ (Timothy Heath) จาก Rand Corporation ชี้ว่า "การโจมตีอิหร่านพิสูจน์ว่าเฉพาะประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้นที่สามารถป้องปรามการรุกราน" ส่งผลให้เปียงยางเร่งพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์และขยายความร่วมมือทางทหารกับรัสเซีย
- จีน: สถาบัน SIPRI เปิดเผยว่าจีนเพิ่มคลังอาวุธนิวเคลียร์จาก 500 เป็น 600 ลูกในปี 2024 และกำลังสร้างฐานปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ใหม่ 350 แห่ง โดยการโจมตีอิหร่านจะเร่งให้ปักกิ่งพัฒนาระบบตอบโต้ที่ปลอดภัย เช่น ขีปนาวุธเคลื่อนที่และอาวุธจากเรือดำน้ำ
ความเสี่ยงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก:
นายเจา ตง ยังเตือนว่าการโจมตีของสหรัฐฯ-อิสราเอลสร้าง "ตรรกะอันตราย" ให้จีนและเกาหลีเหนืออ้างเหตุผลในการใช้มาตรการบีบบังคับต่อโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ แม้ทั้งสองประเทศยังไม่มีอาวุธชนิดนี้
สถานะสนธิสัญญา NPT ปัจจุบัน:
ปัจจุบันมี 9 ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ โดยอินเดีย ปากีสถาน และอิสราเอลไม่เคยร่วมลงนามใน NPT ส่วนเกาหลีเหนือถอนตัวในปี 2003 สถานการณ์ล่าสุดอาจทำให้ประเทศเหล่านี้มองว่าการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เป็นทางรอดเดียว
ผลพวงจากการโจมตีอิหร่านไม่เพียงเร่งการขยายคลังอาวุธนิวเคลียร์ของจีนและเกาหลีเหนือ แต่ยังสั่นคลอนกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ หลังการเจรจาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนหยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2023 และอาจผลักดันให้ประเทศที่ไม่เคยมีอาวุธนิวเคลียร์หันมาพัฒนาเพื่อป้องปรามในอนาคต
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/military/article/3316141/will-us-strikes-iran-push-china-and-north-korea-ramp-their-nuclear-arms-programmes