.

โดรนของจีนจะเอาชนะสหรัฐฯ ได้อย่างไร? จีนครองตลาดวัตถุดิบสำคัญผลิตโดรน สัญญาณอันตรายต่อความมั่นคงทางการทหารสหรัฐฯ
10-6-2025
Asia Time --- บทเรียนจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกนำมาเล่าใหม่เพื่อเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงในสมรภูมิรบสมัยใหม่ เมื่อปี 1940 อังกฤษที่ต่อสู้ เพียงลำพังสามารถคว้าชัยชนะทางเรืออันน่าทึ่งด้วยเทคโนโลยีใหม่ โดยส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Illustrious โจมตีกองเรืออิตาลีที่ท่าเรือทารันโต สร้างความเสียหายแก่เรือรบอิตาลี 3 ลำและเรืออื่นๆ อีกหลายลำ โดยที่กองทัพเรืออิตาลีไม่ทันได้เห็นศัตรู
แต่เพียงหนึ่งปีต่อมา แม้จะมีชัยชนะดังกล่าว ผู้นำกองทัพอังกฤษกลับไม่เชื่อว่าเรือรบที่กำลังแล่นในทะเลจะถูกทำลายด้วยการโจมตีทางอากาศได้ วินสตัน เชอร์ชิลล์จึงส่งเรือรบ HMS Prince of Wales และเรือลาดตระเวน HMS Repulse ไปขัดขวางญี่ปุ่นที่สิงคโปร์ ผลคือเครื่องบินทิ้งระเบิดตอร์ปิโดญี่ปุ่นสามารถจมเรือทั้งสองลำได้อย่างง่ายดาย
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าโลกเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน พลังทางอากาศก่อให้เกิดการปฏิวัติในกิจการทหาร เรือรบหุ้มเกราะที่เคยเป็นอาวุธล้ำค่าที่สุดกลายเป็นอาวุธล้าสมัยทันที
มาถึงปี 2025 เราอาจกำลังเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เมื่อยูเครนได้แสดงให้เห็นพลังของโดรนราคาถูกในการโจมตีเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียย้ายเครื่องบินเหล่านี้ออกห่างจากระยะโจมตีปกติของยูเครน ทางยูเครนได้ส่งรถบรรทุกที่บรรจุโดรนพลาสติกขนาดเล็กใช้แบตเตอรี่เข้าไปในรัสเซีย เมื่อรถบรรทุกเข้าใกล้ฐานทัพอากาศ โดรนก็โผล่ออกมาและเริ่มระเบิดเครื่องบินทิ้งระเบิดที่จอดอยู่บนพื้น
แม้จะไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด แต่ทุกฝ่ายยอมรับว่ายูเครนสามารถทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียได้เป็นจำนวนมาก อาวุธยุทธศาสตร์ราคาแพงมหาศาลเหล่านี้ถูกทำลายด้วยของเล่นที่ใช้แบตเตอรี่ สำหรับสหรัฐฯ บทเรียนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากกองทัพสหรัฐฯ ก็สร้างขึ้นจาก "แพลตฟอร์ม" ขนาดใหญ่ ราคาแพง และหนัก เช่นเดียวกับรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินเจ็ท และรถถัง เครื่องบินขับไล่ล่องหน F-22 แต่ละลำมีราคาประมาณ 350 ล้านดอลลาร์ เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นฟอร์ดราคาประมาณ 13,000 ล้านดอลลาร์ต่อลำ และรถถัง M1A1 Abrams ราคามากกว่า 4 ล้านดอลลาร์
ในกรณีสงครามกับจีน มูลค่ามหาศาลนี้อาจถูกทำลายด้วยโดรนพลาสติกราคาถูกที่ใช้แบตเตอรี่ และสหรัฐฯ มีขีดความสามารถในการผลิตด้านการป้องกันประเทศที่จำกัด จึงไม่สามารถทดแทนสิ่งที่สูญเสียได้อย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ นักวางแผนทางทหารทั่วโลกกำลังพยายามหาวิธีป้องกันการโจมตีแบบที่ยูเครนใช้ มาตรการอาจรวมถึงที่พักพิงเครื่องบินที่แข็งแกร่งขึ้น ระบบป้องกันทางอากาศหลากหลายรูปแบบ และการเฝ้าระวังการขนส่งสินค้าที่ดีขึ้น แต่ไม่ว่าจะอย่างไร โดรนราคาถูกที่ใช้แบตเตอรี่ได้เปลี่ยนแปลงเกมสงครามไปแล้ว
คำถามสำคัญคือ ทำไมสหรัฐฯ จึงไม่สามารถทำแบบเดียวกันกับจีนได้ในกรณีเกิดสงคราม ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะเป็นผู้ประดิษฐ์เทคโนโลยีโดรน แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้ระบบขนาดใหญ่และราคาแพงอย่าง MQ-9 Reaper ซึ่งแต่ละลำมีราคา 33 ล้านดอลลาร์ และมีเพียงไม่กี่ร้อยลำเท่านั้น
ในทางตรงข้าม โดรนที่ใช้ในการโจมตีของยูเครนเป็นโดรน FPV (First Person View) ขนาดเล็กที่ใช้แบตเตอรี่และติดระเบิด ราคาเพียงไม่กี่ร้อยถึงไม่กี่พันดอลลาร์ต่อลำ ปัจจุบันยูเครนผลิตโดรนเหล่านี้ได้หลายพันลำต่อวัน และคาดว่าจะผลิตได้มากกว่า 10,000 ลำในอนาคต
โดรน FPV ไม่เพียงใช้ในการโจมตีระยะไกล แต่ยังกำลังเข้ามาแทนที่อาวุธชนิดอื่นๆ ในสนามรบ สามารถทำลายรถถังได้ และปัจจุบันคาดว่าเป็นสาเหตุของความสูญเสีย 70% ในสนามรบ มากกว่าปืนใหญ่ซึ่งเคยเป็น "เทพเจ้าแห่งสงคราม" แบบดั้งเดิม
ทั้งไต้หวัน อิสราเอล และยุโรปกำลังลงทุนในโดรนและระบบต่อต้านโดรนอย่างเร่งด่วน แม้แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็กำลังพิจารณาซื้อโดรนราคาถูกที่ออกแบบโดยบริษัทสตาร์ทอัพแทนที่จะใช้โดรนราคาแพงจากผู้รับเหมาด้านอาวุธรายใหญ่
แต่ปัญหาสำคัญคือองค์ประกอบหลักของโดรน FPV ล้วนมาจากจีน โดรนประเภทนี้ประกอบด้วยชิ้นส่วนพลาสติกที่ฉีดขึ้นรูป ชิปคอมพิวเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำจากแม่เหล็กถาวรแรร์เอิร์ธ และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน สหรัฐฯ สามารถผลิตชิปคอมพิวเตอร์ได้ แต่ส่วนประกอบอื่นๆ ล้วนมาจากจีน
จีนทำการฉีดขึ้นรูปพลาสติกประมาณ 82% ของโลก ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ และควบคุมการทำเหมืองและแปรรูปแรร์เอิร์ธที่ใช้ในการผลิตแม่เหล็ก เมื่อเร็วๆ นี้ จีนได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธไปยังสหรัฐฯ สร้างความวุ่นวายในหลายอุตสาหกรรม
ที่สำคัญที่สุดคือแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโดรน FPV จีนมีกำลังการผลิตแบตเตอรี่ 77% ของโลกในปี 2022 และแม้จะมีความพยายามของรัฐบาลไบเดนในการส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่ในสหรัฐฯ ผ่านพระราชบัญญัติลดอัตราเงินเฟ้อ แต่รัฐบาลทรัมป์และพรรครีพับลิกันกำลังยกเลิกนโยบายเหล่านี้
ร่างกฎหมายที่ผ่านโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันจะตัดเงินอุดหนุนสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ ยกเลิกแรงจูงใจในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปีจากเจ้าของรถไฟฟ้า นโยบายเหล่านี้กำลังทำลายอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ของอเมริกา โดยในไตรมาสแรกของปี 2025 มีการยกเลิกโครงการมากกว่าสองปีที่ผ่านมารวมกัน
การโจมตีเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียโดยยูเครนแสดงให้เห็นว่าการตัดงบประมาณอุตสาหกรรมแบตเตอรี่เป็นการกระทำที่ไร้เหตุผล แบตเตอรี่คือพลังงานที่ขับเคลื่อนโดรนยูเครนที่ทำลายกองทัพอากาศรัสเซีย หากสหรัฐฯ ไม่ผลิตแบตเตอรี่ ก็จะไม่สามารถผลิตโดรนที่คล้ายกันได้ในกรณีสงครามกับจีน
น่าเสียดายที่นโยบายปัจจุบันมองแบตเตอรี่เป็นเพียงประเด็นสงครามวัฒนธรรมแทนที่จะเป็นประเด็นความมั่นคงของชาติ หากผู้นำสหรัฐฯ ไม่ตระหนักถึงความสำคัญทางการทหารของแบตเตอรี่ แม่เหล็ก การฉีดขึ้นรูป และโดรนในทันที สหรัฐฯ อาจเผชิญชะตากรรมเดียวกับกองทัพเรืออังกฤษในปี 1941 หรือกองทัพเรืออิตาลีในปี 1940 ที่ไม่สามารถปรับตัวต่อการปฏิวัติในกิจการทหารได้ทันท่วงที
---
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/06/how-chinese-drones-could-defeat-america/
Photo: Xinhua