.

สหรัฐฯ-จีน เปิดโต๊ะเจรจาการค้ารอบใหม่ที่ลอนดอน พร้อมผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกเทคโนโลยี-แร่หายาก
10-6-2025
Bloomberg รายงานว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนรอบใหม่ ได้เริ่มขึ้นที่กรุงลอนดอนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชัดเจนถึงความเต็มใจที่จะยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีบางประเภทเพื่อแลกกับคำรับรองจากจีนในการผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่ธาตุหายาก
การประชุมเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะดำเนินไปจนถึงช่วงค่ำของสหราชอาณาจักรและอาจต่อเนื่องถึงวันอังคารหากจำเป็น โดยมีคณะผู้แทนจากทั้งสองประเทศเข้าร่วม
เควิน แฮสเซ็ตต์ หัวหน้าสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า รัฐบาลทรัมป์คาดหวังว่า "หลังจากการจับมือกัน" ในลอนดอน "มาตรการควบคุมการส่งออกจากสหรัฐฯ จะถูกผ่อนปรน และจีนจะปล่อยแร่ธาตุหายากออกมาในปริมาณมาก"
คำให้สัมภาษณ์ของแฮสเซ็ตต์จากวอชิงตันถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าสหรัฐฯ พร้อมที่จะเสนอข้อผ่อนปรนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าสหรัฐฯ จะยังคงจำกัดการส่งออกชิปที่ทันสมัยที่สุดของ NVIDIA ซึ่งใช้ในการขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์
"ผมไม่ได้หมายถึงชิประดับไฮเอนด์มากๆ ของ NVIDIA" แฮสเซ็ตต์กล่าว พร้อมระบุว่าข้อจำกัดจะยังคงมีผลบังคับใช้กับชิป NVIDIA H100 ที่ใช้ในการฝึกฝนบริการปัญญาประดิษฐ์ "ผมกำลังพูดถึงมาตรการควบคุมการส่งออกที่อาจเกิดขึ้นกับเซมิคอนดักเตอร์ประเภทอื่นๆ ซึ่งมีความสำคัญต่อจีนเช่นกัน"
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนระหว่างกำไรและขาดทุนเล็กน้อย ขณะที่หุ้นจีนที่ซื้อขายในฮ่องกงเข้าสู่ตลาดกระทิง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนมีความหวังว่าการเจรจาครั้งนี้จะช่วยลดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจ
การเจรจารอบนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายพบกันเมื่อหนึ่งเดือนก่อน มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้ในการประชุมที่เจนีวา ซึ่งวอชิงตันและปักกิ่งตกลงที่จะลดภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วัน เพื่อให้มีเวลาในการเจรจาแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าที่รัฐบาลทรัมป์มองว่าเกิดจากสนามแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
ความสับสนหลังการประชุมที่เจนีวาเกี่ยวกับกระบวนการอนุญาตส่งออกแร่หายากของจีน ประกอบกับข้อจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และการปราบปรามวีซ่านักศึกษาจีนล่าสุดของวอชิงตัน สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนในการทำข้อตกลงระหว่างสองประเทศ
"พวกเขาเปิดช่องให้มีการตีความมากเกินไป" จอช ลิปสกี้ ประธานด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศแห่ง Atlantic Council กล่าว "สหรัฐฯ และจีนต้องการกลับไปอยู่ในจุดเดิมเมื่อครั้งที่เจรจาในสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมข้อตกลงเพิ่มเติมที่ชัดเจนบนกระดาษเพื่อให้เข้าใจว่าอะไรจะได้รับอนุญาต อะไรไม่ได้รับอนุญาต"
การสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดูเหมือนจะช่วยกระตุ้นให้การเจรจาฟื้นคืนชีพและนำไปสู่ข้อตกลงที่เป็นรูปธรรม ในวันจันทร์ที่แลงคาสเตอร์เฮาส์ กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นสถานที่ที่มาริโอ ดรากี อดีตประธานธนาคารกลางยุโรปเคยกล่าวสุนทรพจน์อันโด่งดัง "ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรก็ตาม" เมื่อปี 2012 รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีพาณิชย์ โฮเวิร์ด ลัตนิค และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เจมิสัน เกรียร์ ได้พบกับคณะผู้แทนจีนนำโดยรองนายกรัฐมนตรีเหอ ลี่เฟิง
การเพิ่มลัตนิคซึ่งรับผิดชอบดูแลมาตรการจำกัดการขายเทคโนโลยีขั้นสูง ส่งสัญญาณว่าทรัมป์อาจพร้อมพิจารณายกเลิกข้อจำกัดบางประการที่คุกคามความทะเยอทะยานในการเติบโตระยะยาวของจีน ตั้งแต่การจัดหาเทคโนโลยีไปจนถึงชิ้นส่วนเครื่องยนต์เจ็ท
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้นในปีนี้ เมื่อทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าจีน ส่งผลให้ปักกิ่งตอบโต้ สร้างความเสียหายให้ทั้งสองเศรษฐกิจ รวมถึงการบิดเบือนข้อมูลและความไม่แน่นอนสำหรับภาคธุรกิจที่พยายามรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าอย่างฉับพลัน
ตัวเลขจากรัฐบาลจีนที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์แสดงให้เห็นว่าการส่งออกในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ถึงแม้ว่าความต้องการจากตลาดอื่นๆ จะยังคงแข็งแกร่งก็ตาม
ในขณะเดียวกัน การเติบโตของการจ้างงานในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงในเดือนพฤษภาคม และตัวเลขเดือนก่อนหน้าถูกปรับลดลง สะท้อนให้เห็นว่านายจ้างมีความระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ มาตรการภาษีของทรัมป์สร้างความไม่แน่นอนและความล่าช้าให้กับผู้ผลิตในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในแถบมิดเวสต์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนและการผลิต
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-06-09/us-china-trade-talks-start-in-london-aiming-to-ease-export-curbs