เกาหลีเหนือเผย 'ทรัมป์ขยายสงครามโลก'

เกาหลีเหนือเผย 'ทรัมป์ขยายสงครามโลก' จากนโยบายเร่งส่งออกอาวุธใหม่ของสหรัฐฯ
22-4-2025
Newsweek รายงานว่า สื่อรัฐบาลของเกาหลีเหนือกล่าวหาสหรัฐอเมริกาว่ากำลัง "ขยายสงคราม" ทั่วโลก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อลดกฎระเบียบการส่งออกอาวุธ
สำนักข่าว Newsweek รายงานว่ายังไม่ได้รับการตอบสนองจากทำเนียบขาวต่อการขอความคิดเห็นในเรื่องนี้
เกาหลีเหนือซึ่งเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์มักจะวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของวอชิงตันอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา รวมถึงนโยบายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับคาบสมุทรเกาหลี ผู้นำประเทศ คิม จองอึน เคยกล่าวโทษสหรัฐฯ ว่าทำให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อจากการสนับสนุนเคียฟ
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ทรัมป์ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารชื่อ "การปฏิรูปการขายอาวุธต่างประเทศเพื่อปรับปรุงความเร็วและความรับผิดชอบ" ซึ่งเรียกร้องให้มีการผ่อนคลายกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้ต่างประเทศเพื่อ "ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ"
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลเกาหลีเหนือได้เผยแพร่บทวิเคราะห์เมื่อวันอาทิตย์ ระบุว่ามาตรการผ่อนปรนกฎระเบียบการส่งออกอาวุธของรัฐบาลทรัมป์ "หมายถึงการขยายสงคราม" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายต่างประเทศ "ที่แสวงหาการครองอำนาจนำ" ของสหรัฐฯ
บทวิเคราะห์ดังกล่าวอ้างถึงสงครามในยูเครนและฉนวนกาซา โดยระบุว่าสหรัฐฯ ได้อาศัยการจัดหา "ยุทโธปกรณ์" ภายใต้ข้ออ้างว่าเพื่อปรับปรุงความมั่นคงของพันธมิตร โดยอาวุธที่ส่งออกส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่มือของ "กลุ่มที่สนับสนุนการทำสงคราม" ในยุโรปและตะวันออกกลาง สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) รายงานเมื่อเดือนมีนาคมว่า ยูเครนเป็นผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างปี 2563 ถึง 2567 ในขณะที่สหรัฐฯ คิดเป็น 43 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกอาวุธทั่วโลกในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ที่สุดในโลก
อาวุธที่สหรัฐฯ จัดส่งให้ยูเครนและอิสราเอลในช่วงความขัดแย้งมีตั้งแต่ขีปนาวุธไปจนถึงระเบิดและเครื่องบินขับไล่ ทรัมป์เคยสั่งระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนชั่วคราว หลังจากการประชุมที่ไม่ประสบความสำเร็จกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนที่ทำเนียบขาว
สำนักข่าวกลางเกาหลีกล่าวว่า การขายอาวุธของสหรัฐฯ ได้เสริม "พลังชีวิต" ให้กับ "ผู้รับใช้ที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างไร้ความยั้งคิด" และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศไม่ควรมองข้าม "ความพยายามของวอชิงตันที่จะทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น"
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ระบุในคำสั่งฝ่ายบริหารว่า การปฏิรูประบบการขายอาวุธให้ต่างประเทศจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถด้านความมั่นคงของพันธมิตรและกระตุ้นฐานอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของสหรัฐฯ
สำนักข่าวกลางเกาหลีแถลงว่า: "ท่ามกลางการสังหารหมู่และการทำลายล้างที่คุกคามสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคต่างๆ ของโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากสหรัฐฯ ที่เป็นแกนนำของการรุกราน เป็นที่ชัดเจนว่าเมื่ออาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงที่ผลิตในสหรัฐฯ ถูกส่งมอบให้กับกองกำลังตัวแทนในสงครามมากขึ้น ในขณะที่สหรัฐฯ ผ่อนปรนกฎระเบียบการส่งออกยุทโธปกรณ์ทางทหาร ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนราวกับกลางวันแสกๆ"
คำสั่งฝ่ายบริหารที่ลงนามโดยประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า: "สหรัฐฯ จำเป็นต้องรักษากองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดและมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดในโลกผ่านฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่มีพลวัต ควบคู่ไปกับเครือข่ายพันธมิตรที่มีศักยภาพที่แข็งแกร่ง ระบบการขายอาวุธต่างประเทศที่รวดเร็วและโปร่งใสซึ่งช่วยให้เกิดความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศที่มีประสิทธิผลระหว่างสหรัฐฯ และพันธมิตรที่เราเลือกถือเป็นรากฐานของวัตถุประสงค์เหล่านี้"
สหรัฐฯ ได้ขายอาวุธให้กับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาที่เผชิญกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ยังคงต้องติดตามต่อไปว่า วอชิงตันจะส่งออกอุปกรณ์ทางทหารเพิ่มเติมไปยังกรุงโซลและกรุงโตเกียวหรือไม่ ในขณะที่กำลังผลักดันให้พันธมิตรเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/north-korea-us-news-trump-expanding-global-wars-2062014