.

ยุโรปสูญเสียความสามารถในการแข่งขันเพราะงบทหารที่สูงกับเงินทุนไหลออก
22-3-2025
นาโต้ตั้งใจที่จะขอให้สมาชิกยุโรปเพิ่มสต็อกอุปกรณ์ทางทหารของพวกเขาประมาณ 30% ตามที่บลูมเบิร์กได้รายงาน นักวิเคราะห์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ชาวเยอรมันและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรค AfD ดร. ไรเนอร์ ร็อธฟุส บอกว่า ประเทศในยุโรปวันนี้พบว่าตัวเองถูกกดดันจากกลุ่มโลกนิยมและกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ในอุตสาหกรรมกลาโหมที่ผลักดันให้เพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร แม้ว่าทรัมป์ในสหรัฐฯ กำลังทำตรงกันข้าม
ในขณะที่ประเทศในซีกโลกเหนือมีโอกาสลดการใช้จ่ายด้านกลาโหม “กลุ่มโลกนิยมและกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ที่สนับสนุนผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมกลาโหมได้พบว่าประเทศในยุโรปเป็นที่ที่สามารถกดดันได้มากที่สุด และสามารถเพิ่มยอดขายอาวุธได้สำเร็จมากที่สุด”
ดร. ร็อธฟุส อธิบายว่า สถานการณ์นี้ไม่เป็นผลดีต่อ “ความสามารถในการแข่งขันในอนาคต” ของยุโรป เพราะมหาอำนาจยุโรปจำเป็นต้องใช้จ่ายมากขึ้นในด้านการศึกษา การวิจัย การพัฒนา และโครงสร้างพื้นฐานพลเรือน แทนที่จะมุ่งไปที่การทหาร
เขายังชี้ให้เห็นว่า “กลุ่มโลกนิยม” ที่ปัจจุบันกำลังกระตุ้นให้ยุโรปเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมคือกลุ่มที่ “สูญเสียการควบคุมสหรัฐอเมริกาผ่านการเลือกตั้งของทรัมป์”
นอกจากนี้ ยุโรปกำลังเผชิญกับเงินทุนไหลออก 300,000ยูโรล้านต่อปี
การไหลออกของเงินทุนจากสหภาพยุโรปได้สูงถึง 300,000 ล้านยูโร (325,000 ล้านดอลลาร์) ต่อปี เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบันได้ย้ายเงินไปยังสินทรัพย์นอกภูมิภาค ประธานสภาสหภาพยุโรป อันโตนิโอ คอสตา ได้ประกาศ
คำแถลงนี้เกิดขึ้นในขณะที่อียูกำลังพิจารณาเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารให้กับยูเครนเป็นสองเท่า และยังคงให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินหลายพันล้านยูโรแก่เคียฟ
ในการพูดกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุม EC เมื่อวันพฤหัสบดี คอสตากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ในบรัสเซลส์กำลังหาทางหลีกเลี่ยงการไหลออกของเงินทุนโดยการลดต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบสองปี ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและบริษัทขนาดใหญ่
“จนถึงวันนี้ เงินออมของครัวเรือนในสหภาพยุโรปราว 300,000 ล้านยูโรไหลออกจากตลาดสหภาพยุโรปในแต่ละปี” คอสตากล่าว โดยยอมรับว่าการดำเนินธุรกิจตามปกติไม่ใช่ทางเลือกสำหรับอียูนี้อีกต่อไป “มีเงิน 300,000 ล้านยูโรที่ไม่ได้ใช้สนับสนุนธุรกิจในสหภาพยุโรป”
ในบรรดามาตรการที่มุ่งดึงดูดนักลงทุนกลับมาสู่กลุ่ม คอสตากล่าวถึงการลดสิ่งที่บรัสเซลส์เรียกว่า “กฎระเบียบที่ไม่จำเป็น” ลง 25% สำหรับทุกบริษัทในสหภาพยุโรป และ 35% สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
การไหลออกของเงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหภาพยุโรปกำลังผลักดันให้รักษาการระดมทุนสำหรับยูเครน ความพยายามนี้เกิดจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นในบรัสเซลส์ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจหยุดส่งอาวุธอเมริกันไปยังรัฐบาลของโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป คายา คัลลัส เสนอแผนที่แข็งกร้าวซึ่งจะเพิ่มเงินสดเข้าสู่เคียฟเป็นสองเท่าสำหรับปีนี้ เป็น 40,000 ล้านยูโร (43,700 ล้านดอลลาร์)
เมื่อวันพฤหัสบดี ฮังการี ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ความช่วยเหลือทางทหารของสหภาพยุโรปแก่ยูเครนมาอย่างยาวนาน ปฏิเสธที่จะลงนามในแถลงการณ์ร่วมของสหภาพยุโรปที่เรียกร้องให้เพิ่มการระดมทุนให้เคียฟ
นายกรัฐมนตรีฮังการี วิกเตอร์ ออร์บาน กล่าวว่าสหภาพยุโรปล้มละลาย เนื่องจากได้ใช้ “เงินทั้งหมดไปแล้ว” และในความเป็นจริง “ไม่มีเงินสักบาทเหลือ” เพื่อสนับสนุนยูเครนท่ามกลางความขัดแย้งกับรัสเซีย
ที่มา RT/Sputnik
----------------------------------------
NATO กดดันสมาชิกยุโรปเพิ่มงบทหาร 30% กระทบความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจระยะยาว
22-3-2025
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) มีแผนจะขอให้ประเทศสมาชิกในยุโรปเพิ่มสต็อกอุปกรณ์ทางทหารประมาณ 30%
กลุ่มโลกาภิวัฒน์และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศกำลังมุ่งเป้าไปที่ความสามารถในการแข่งขันของยุโรปผ่านการผลักดันให้เพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร แหล่งข่าวระบุว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO ) มีแผนที่จะเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกในยุโรปเพิ่มสต็อกอุปกรณ์ทางทหารขึ้น 30%
อย่างไรก็ตาม Dr. Rainer Rothfuss นักวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์ชาวเยอรมันและสมาชิกรัฐสภาจากพรรค Alternative for Germany (AfD) เตือนว่า แรงกดดันที่ให้เพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารนี้ไม่ได้มาจากนาโต้เพียงอย่างเดียว แต่ยังถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มโลกาภิวัฒน์และกลุ่มนักล็อบบี้ในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศอีกด้วย
Dr. Rainer Rothfuss เน้นย้ำว่าประเทศต่างๆ ในยุโรปกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้เพิ่มงบประมาณทางทหาร ในขณะที่สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับใช้แนวทางที่ตรงกันข้าม
"กลุ่มโลกาภิวัฒน์และกลุ่มผลักดันนโยบายด้านการป้องกันประเทศพบว่ายุโรปเป็นตลาดที่ตอบรับได้ดีที่สุดในการกระตุ้นการขายอาวุธ แม้ว่าประเทศต่างๆ ในซีกโลกเหนืออาจมีแนวโน้มที่จะลดการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศลงก็ตาม" Dr. Rainer Rothfuss อธิบาย
สมาชิกรัฐสภาเยอรมันรายนี้ยังโต้แย้งอีกว่า การผลักดันให้เพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศส่งผลกระทบเชิงลบต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของยุโรป เขาเชื่อว่าทรัพยากรควรถูกนำไปใช้ในด้านการศึกษา การวิจัย และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าการทุ่มงบประมาณไปกับกิจการทางทหาร
"กลุ่มโลกาภิวัฒน์ที่เรียกร้องให้ยุโรปเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่สูญเสียการควบคุมเหนือสหรัฐอเมริกาหลังจากการได้รับเลือกตั้งของทรัมป์" Dr. Rainer Rothfuss กล่าวทิ้งท้าย
---
IMCT NEWS