ผู้นำธุรกิจของเยอรมันเตรียมนัดชุมนุมใหญ่ประท้วงรัฐบาลปลายเดือนมกราคมนี้

19-1-2025

หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ Bild รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า

     สมาคมธุรกิจเยอรมันรายใหญ่หลายสิบแห่งกำลังวางแผนดำเนินการประท้วงร่วมกันครั้งใหญ่ในปลายเดือนมกราคม เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลกลาง

      สื่อรายงานโดยอ้างผู้นำของสมาคมธุรกิจหลายแห่งว่า การนัดหยุดงานและการประท้วงมีการวางแผนในกรุงเบอร์ลินและเมืองอื่นๆ ในเยอรมนีในวันที่ 29 มกราคม โดยคาดว่าจะมีกลุ่มธุรกิจเกือบ 50 กลุ่ม คิดเป็นพนักงานประมาณ 20 ล้านคน เข้าร่วม

    องค์กรหลักที่เข้าร่วมการดำเนินการ ได้แก่ สมาคมผู้ประกอบการครอบครัว กลุ่มอุตสาหกรรมโลหะ Gesamtmetall สมาคมโรงแรมและร้านอาหารเยอรมัน สมาคมค้าส่งและการค้าต่างประเทศของเยอรมัน และสมาคมธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง องค์กรอุตสาหกรรมแฟชั่นหลายแห่งกล่าวว่าพวกเขาจะเข้าร่วมด้วย

      ผู้นำธุรกิจบางคนวิพากษ์วิจารณ์คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์อย่างรุนแรงในการสนทนากับบิลด์ “ในด้านการเมือง ไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใจว่าสถานการณ์แย่ขนาดไหน” สเตฟาน วูล์ฟ หัวหน้าบริษัท Gesamtmetall กล่าวกับหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ พร้อมเสริมว่ารัฐบาลไม่สามารถเข้าใจความร้ายแรงของสถานการณ์ได้ อุตสาหกรรมต่างๆถูกบีบให้ย่ำแย่โดย “เงื่อนไขกรอบการทำงานที่ไม่ถูกต้อง” ของรัฐบาล เขากล่าว

      ความกังวลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นโดยประธานสมาคมการค้าต่างประเทศของเยอรมนี เดิร์ก จันดูรา ซึ่งชี้ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยืดเยื้อที่ประเทศต้องเผชิญ “เราอยู่ในช่วงกลางปีที่สามของวิกฤต โดยไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น กฎระเบียบที่มากเกินไปยังคงไม่ลดน้อยลง” เขากล่าวกับ Bild

      Marie-Christine Ostermann หัวหน้าสมาคมผู้ประกอบการครอบครัว เรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานของรัฐบาล “เรากำลังต่อสู้เพื่อการพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจ” เธอกล่าว

การเลือกตั้งระดับสหพันธรัฐในปี 2025 ที่กำลังจะมีขึ้นควรได้รับการปฏิบัติเหมือน “การลงประชามติ” ซึ่งพรรคการเมืองและนโยบายต่างๆ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับธุรกิจต่างๆ ที่พวกเขาต้องการอย่างยิ่ง หัวหน้าสมาคมกล่าว

รายการข้อเรียกร้องที่เสนอโดยสมาคมธุรกิจ ได้แก่ การลดภาษี การหยุดเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม และกฎระเบียบและกฎหมายให้ตัดลดลงเนื่องจากขัดขวางการเติบโตของธุรกิจ

การหยุดงานประท้วงตามแผนนี้มีขึ้นในขณะที่เยอรมนีต้องต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2024 GDP ของประเทศหดตัว 0.2% หลังจากที่หดตัว 0.3% ในปี 2023 ตามรายงานที่เผยแพร่โดย Destatis สำนักงานสถิติกลางของประเทศในสัปดาห์นี้

การชะลอตัวของการผลิตที่ยืดเยื้อ ประกอบกับต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนจากก๊าซรัสเซียไปเป็นก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาแพงกว่าจากสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานเข้มข้น

การประท้วงเกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนการเลือกตั้งรัฐสภาในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้

ที่มา RT