Thailand
อาเซียนใต้ร่มมาเลเซียในฐานะปธ. 'อันวาร์' ชู 'ความเป็นกลาง' เลี่ยงสงครามการค้า สหรัฐฯ-จีน
18-1-2025
Asia Time รายงานว่า ท่ามกลางการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์สู่ทำเนียบขาว และการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่ทวีความเข้มข้น ปี 2025 ถือเป็นปีสำคัญของอาเซียนในฐานะองค์กรระดับภูมิภาคที่ต้องเผชิญความท้าทายด้านความมั่นคงระดับโลก
พีท เฮกเซธ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังไม่สามารถระบุชื่อประเทศสมาชิกอาเซียนได้แม้แต่ประเทศเดียวระหว่างการไต่สวนในสภา สะท้อนให้เห็นว่าอาเซียนกำลังสูญเสียความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ในสายตาของชนชั้นนำด้านยุทธศาสตร์ของวอชิงตัน
มาเลเซียในฐานะประธานหมุนเวียนอาเซียนปีนี้ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน โดยอัมราน โมฮัมเหม็ด ซิน เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่าจะมีการประชุมที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน 357 ครั้ง รวมถึงการประชุมระดับสูง 14 ครั้งที่มีผู้นำประเทศสมาชิกเข้าร่วม เริ่มต้นด้วยการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่เกาะลังกาวี ซึ่งมีผู้แทนและนักการทูตกว่า 200 คนเข้าร่วม
อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เลือก "ความครอบคลุมและความยั่งยืน" เป็นธีมหลักของการเป็นประธานอาเซียน มุ่งเน้นประเด็นการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจ ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก
ตัน ศรี นาซีร์ ราซัค ประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนมาเลเซีย เสนอแนวคิด "นิติบุคคลธุรกิจอาเซียน" เพื่อเชื่อมโยงตลาดในภูมิภาค พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์ มองว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีนเป็นโอกาสดึงดูดการลงทุนจากทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ที่เต็มไปด้วยกลุ่มแข็งกร้าวต่อจีน นำโดยมาร์โก รูบิโอ ว่าที่รัฐมนตรีต่างประเทศ และเอลบริดจ์ คอลบี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมด้านนโยบาย มีแนวโน้มกดดันประเทศในภูมิภาคให้เลือกข้างระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน ส่งผลให้อาเซียนต้องปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
ขณะที่อันวาร์ยืนยันจุดยืนการเป็นกลาง หลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์จีนในทุกประเด็น รวมถึงข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ พร้อมวิจารณ์ชาติตะวันตกว่ามีสองมาตรฐานในกรณีความขัดแย้งที่กาซาและการต่อต้านจีน เน้นย้ำว่ามาเลเซียไม่ต้องการถูกชี้นำจากมหาอำนาจใด และมองว่าจีนเป็นหุ้นส่วนสำคัญในการพัฒนาภูมิภาค
ทั้งนี้ มาเลเซียเป็นผู้รับประโยชน์หลักจากการลงทุนของจีน และกำลังจะบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศรายได้สูง จึงไม่น่าแปลกใจที่อันวาร์จะระมัดระวังท่าทีในการนำอาเซียนปีนี้ แต่ด้วยนโยบายแข็งกร้าวของรัฐบาลทรัมป์ที่มองว่าจีนเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่ง อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการทูตระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ในอนาคต
---
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/why-malaysia-led-asean-could-go-toe-to-toe-with-trump/
© Copyright 2020, All Rights Reserved