ตลาดโลหะโลกผันผวน! จับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ

16-1-2025

     CME เผย 5 แนวโน้มตลาดโลหะปี 2568 จับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ  CME ชี้ทิศทางปี 2568 เน้นออปชั่นระยะสั้นรับความผันผวน

     Kitco News รายงานว่า CME Group เปิดเผยการวิเคราะห์แนวโน้มสำคัญ 5 ประการในตลาดโลหะโลกปี 2568 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

     สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสุทธิผลิตภัณฑ์แร่และโลหะมูลค่า 193 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 เตรียมเพิ่มภาษีนำเข้าจากคู่ค้าหลัก ทั้งแคนาดา (19% ของการนำเข้า) จีนและเม็กซิโก (ประเทศละ 11%) ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาโลหะแตกต่างกันระหว่างภูมิภาค

      ขณะเดียวกัน จีนได้ยกเลิกการคืนภาษีส่งออกอลูมิเนียมและทองแดงตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2567 ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยจีนครองส่วนแบ่งการผลิตทองแดงบริสุทธิ์ 44% และอลูมิเนียมขั้นต้น 55% ของโลก และทำสถิติส่งออกทองแดงสูงสุดที่ 450,000 เมตริกตันในปี 2567

ด้านตลาดโลหะแบตเตอรี่ ทั้งโคบอลต์และลิเธียมยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาวะอุปทานล้นและการชะลอตัวของอุปสงค์ในปี 2566-2567 แต่การควบรวมกิจการระหว่าง Rio Tinto และ Arcadium Lithium อาจเป็นจุดเปลี่ยนของตลาด พร้อมกับสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและการจัดเก็บพลังงาน

     CME ยังเตือนให้จับตาผลกระทบของภาษีนำเข้าต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำ แม้จะมีแรงหนุนจากการซื้อทองคำของธนาคารกลางเพื่อกระจายความเสี่ยง รวมถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

      สุดท้าย CME คาดว่าตลาดจะหันมาใช้ออปชั่นระยะสั้นมากขึ้นในปี 2568 โดยเฉพาะในตลาดทองคำ เงิน และทองแดง เพื่อรับมือกับความผันผวนจากสงครามการค้า ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.kitco.com/news/article/2025-01-15/us-tariffs-chinese-rebates-and-rise-short-term-options-cme-groups-key