รัฐบาลอินเดียเตรียมหารือมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออก ก่อนสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า

27-8-2025

   สำนักงานนายกรัฐมนตรีอินเดียเตรียมจัดประชุมระดับสูงในวันอังคารนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการสนับสนุนผู้ส่งออกของอินเดียที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ตามรายงานของ The Times of India ซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้

  เริ่มตั้งแต่วันพุธนี้ สินค้าจากอินเดียที่เข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ จะถูกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 50% หลังจากรัฐบาลวอชิงตันประกาศ เพิ่มอัตราภาษีขึ้นเป็นสองเท่า ส่งผลให้ต้นทุนราคาสินค้าสูงขึ้น และกดดันผู้ส่งออกอินเดียอย่างหนัก

  รายงานระบุว่า การประชุมดังกล่าวคาดว่าจะมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่ปรึกษาหลักของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เป็นประธาน

   กระทรวงพาณิชย์ของอินเดียกำลังหารือกับผู้ส่งออกและสภาส่งเสริมการส่งออก เพื่อหาแนวทางลดผลกระทบจาก ภาษี 25% เดิม ที่บริษัทต่างๆ ระบุว่า ได้ส่งผลกระทบต่อ อัตรากำไร และ ความสามารถในการแข่งขัน แล้วในระดับหนึ่ง

   รายงานยังเสริมว่า มาตรการนโยบายที่อยู่ระหว่างการพิจารณานั้น จะเน้นการสนับสนุนเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรง แทนที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง

  ผู้ส่งออกของอินเดียได้ร้องขอให้รัฐบาลจัดตั้งโครงการรับประกันสินเชื่อฉุกเฉิน ซึ่งจะให้ เงินทุนหมุนเวียนแบบไม่มีหลักประกัน พร้อมความคุ้มครองความเสี่ยงโดยรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บางรายเชื่อว่า การแทรกแซงแบบเฉพาะภาคส่วน อาจให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า

  เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดีย 25% โดยอ้างว่าอินเดียมีอัตราภาษีนำเข้าสูง กำแพงการค้าสูง และยังซื้อพลังงานกับอาวุธจากรัสเซีย มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม

   ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร (executive order) เพื่อเพิ่มภาษีอีก 25% โดยเชื่อมโยงกับการที่อินเดียซื้อ น้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม

  ก่อนจะมีมาตรการล่าสุด เจ้าหน้าที่อินเดียยังเชื่อว่า ปัญหาภาษีกับสหรัฐฯ สามารถคลี่คลายได้ผ่าน ข้อตกลงการค้าฉบับใหญ่ โดยนิวเดลีและวอชิงตันได้จัดการเจรจาหลายรอบเพื่อผลักดันข้อตกลงดังกล่าว

  อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของสื่อ จุดติดขัดหลักอยู่ที่แรงกดดันจากสหรัฐฯ ให้เปิดตลาดเกษตรรับพืชดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) ซึ่งอินเดียปฏิเสธมาโดยตลอด โดยให้เหตุผลว่าอาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศและเสี่ยงต่อความมั่นคงทางอาหาร

  แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะยังคงพยายามหาจุดร่วม แต่ประเด็นดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ ความคืบหน้าในข้อตกลงทางการค้าชะลอตัว

IMCT News