EU ประกาศหนุนฟิลิปปินส์รับมือจีน

EU ประกาศหนุนฟิลิปปินส์รับมือจีน แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ยุโรปขาดขีดความสามารถในทางปฏิบัติ
25-8-2025
Asia Time รายงานว่า การเยือนมะนิลาโดยคายา คัลลาส (Kaja Kallas) หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) สะท้อนยุทธศาสตร์ที่เน้นวาทกรรมด้านประชาธิปไตยและคุณค่า มากกว่าการปฏิบัติจริง สนามความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ชี้ชัดว่า ยุโรปขาดขีดความสามารถ อำนาจ และเจตจำนงที่จะให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ฟิลิปปินส์ หากเกิดปะทะกับจีน
EU ไม่มีหนทาง ไม่มีอาณัติ และขาดความตั้งใจที่จะดำเนินการปกป้องฟิลิปปินส์ ภายใต้แรงกดดันในภูมิภาค บริบทนี้ตอกย้ำโดยการที่ทรัมป์ (Donald Trump) ผลักดันให้ยุโรปใช้งบซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ ถึง 5% ของ GDP พร้อมออกมาตรการภาษีและแนะนำยุโรปถึงวิธีรับมือปัญหาของตัวเองที่หน้าประตูบ้าน
คัลลาสประกาศความเป็นพันธมิตรกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ (Ferdinand Marcos Jr.) อย่างแข็งขัน พร้อมตำหนิพฤติกรรมของจีนว่า “ผิดกฎหมาย ใช้กำลัง และหลอกลวง” อย่างไรก็ตาม ข่าวใหญ่และแถลงการณ์เหล่านั้นไม่สามารถกลายเป็นยุทธศาสตร์จริง พันธมิตรต้องมีขีดความสามารถและเจตจำนง ซึ่งยุโรปยังขาดอยู่
หลักฐานของความลังเลปรากฏชัดจากฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสและผู้นำแห่งกลุ่มอำนาจนิวเคลียร์ของยุโรป กล่าวอย่างชัดเจนที่ Shangri-La Dialogue ว่า “หากวันหนึ่งจีนดำเนินปฏิบัติการใหญ่ต่อชาติใด ประเทศยุโรปจะระมัดระวังอย่างยิ่ง”
หากฝรั่งเศสเลือกไม่รับมือ ยุโรปทั้งกลุ่มก็แทบจะหมดทางปฏิบัติ
วิกฤตยูเครนคือข้อพิสูจน์หลัก EU สนับสนุนเงินและอาวุธแต่ไม่มีการส่งกองกำลังรบไปยูเครน
มาครงย้ำชัดว่า “หากทั้งสหรัฐฯ และยุโรปยังแก้ปัญหายูเครนไม่ได้ ความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ-ยุโรปในการแก้ปัญหาภูมิภาคเอเชียก็จะต่ำมาก”
ข้อเท็จจริงชี้ชัดว่า EU ไม่ใช่รัฐชาติ แต่เป็นกลุ่มพันธมิตร 27 ประเทศที่มีนโยบายจีนแตกต่างกันออกไป ฝรั่งเศสรักษาผลประโยชน์ตนเอง เยอรมนีเน้นการค้า อีสเทิร์นยุโรปผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานของจีน สเปนต้องการโรงงานจากจีน EU ยังไม่ใช่กลไกกองกำลังร่วมกัน กลยุทธ์อิสระจึงยังเป็นเพียงคำขวัญ
การเดินทางของคัลลาสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในมะนิลา เน้นภาพลักษณ์มากกว่าการเสริมความมั่นคงที่แท้จริง การหารือมุ่งสร้างภาพลักษณ์ระดับโลก มากกว่าการตอบโจทย์ว่าท้ายที่สุดยุโรปจะพร้อมรับมือจีนในข้อพิพาททะเลจีนใต้หรือไม่ คำตอบนั้นปฏิเสธมาแล้วที่สิงคโปร์
อันตรายสำคัญคือการตัดสินใจผิดพลาด มะนิลาควรมองเห็นความต่างระหว่างสัญลักษณ์กับการปกป้องในทางปฏิบัติ ถ้านโยบาย EU ยังเป็นเพียงการออกแถลงการณ์ สร้างภาพลักษณ์โดยไร้ขุมกำลัง สนามการปะทะจะยิ่งเป็นอุปสรรคหากเข้าใจผิด
EU ไม่แม้แต่จะมีข้อตกลงการค้าโดยตรงกับฟิลิปปินส์ บทบาทจึงจำกัดอยู่ในแวดวงเศรษฐกิจระหว่างประเทศและกลไกหลายฝ่าย
ขณะวิกฤตชาติในภูมิภาคอย่างฟิลิปปินส์ยังต้องพึ่งพาสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและออสเตรเลียเป็นคู่ค้าหลักทางความมั่นคงมากกว่ายุโรป
ข้อสังเกตสุดท้ายคือ EU สามารถเสนอเงินทุน ติดตั้งเรดาร์ หรือออกพันธกิจมติในห้วงเวลาปกติ เมื่อเผชิญหน้าระดับปะทะ บทบาทหลักยังคงเป็นเพียง “สนับสนุนจากระยะไกล” ด้วยถ้อยแถลงข้อความหนักแน่น
ความสำคัญในการปกป้องฟิลิปปินส์จึงเป็นเรื่องของขีดความสามารถ ไม่ใช่เพียงวาทกรรมหรือการประชุม
เหล่าผู้กำหนดนโยบายฟิลิปปินส์ควรตระหนักความต่างระหว่าง “หน้าที่สัญลักษณ์” กับ “ขีดกำลังป้องกัน”
เมื่อมะนิลาเผชิญข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ เครื่องมือที่ชี้ขาดไม่ใช่วาทกรรมประชาธิปไตย หากแต่เป็นขีดความสามารถทางทหารที่ยุโรปยังไม่มี
---
IMCT NEWS
ที่มา https://asiatimes.com/2025/08/eu-bluffing-it-will-protect-the-philippines-from-china/
Image: Pool