.

Thailand
ทรัมป์เลื่อนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปอีก 90 วัน
12-8-2025
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อเลื่อนการกลับมาใช้ภาษีในอัตราสูงกับสินค้านำเข้าจากจีนออกไปอีก 90 วัน ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่ให้สัมภาษณ์กับ CNBC
ภาษีดังกล่าวมีกำหนดกลับมาใช้ในวันอังคาร แต่คำสั่งของทรัมป์ที่ลงนามเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น ได้ขยายเส้นตายออกไปจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน การตัดสินใจครั้งนี้เป็นผลลัพธ์ที่คาดไว้จากการเจรจาการค้ารอบล่าสุดระหว่างผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงสตอกโฮล์มในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม
หากไม่มีการขยายเส้นตาย ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯ จะเพิ่มกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกทวีความรุนแรงถึงขีดสุด
ในช่วงเวลานั้น ทรัมป์ได้ปรับขึ้นภาษีครอบคลุมสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 145% ขณะที่จีนก็ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 125% กับสินค้าจากสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงระงับการใช้ภาษีส่วนใหญ่เมื่อเดือนพฤษภาคม หลังจากที่มีการเจรจาเกิดขึ้นครั้งแรกในกรุงเจนีวา โดยสหรัฐฯ ปรับลดภาษีลงเหลือ 30% และจีนก็ลดภาษีลงเหลือ 10%
การขยายเวลาในวันจันทร์นี้ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของลักษณะการดำเนินนโยบายภาษีของทรัมป์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาโดยแทบไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนให้กับธุรกิจจำนวนมากเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
ทรัมป์เคยประกาศขึ้นภาษีอย่างหนัก แต่ก็มักเปลี่ยนใจในภายหลัง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศขึ้นภาษีในอัตราสูงกับหลายประเทศหรืออุตสาหกรรมเฉพาะ แต่ก็มักจะปรับลด แก้ไข หรือชะลอการบังคับใช้ภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์หลังจากนั้น ตัวอย่างเช่น “ภาษีตอบโต้” ที่เขาประกาศในช่วงต้นเดือนเมษายน ก็ถูกระงับและเลื่อนการใช้หลายครั้ง ก่อนจะมีผลบังคับในรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่าเขาต้องการให้จีน “เพิ่มคำสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เป็น 4 เท่าทันที” “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดขาดดุลการค้าของจีนกับสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ” ทรัมป์เขียนในโพสต์บน Truth Social
ราคาถั่วเหลืองในตลาดชิคาโกปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวันจันทร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าจีนได้ตกลงที่จะเพิ่มการสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ตามคำเรียกร้องของทรัมป์หรือไม่
ที่มา CNBC
© Copyright 2020, All Rights Reserved