.

รัฐบาลเมียนมา จ้างล็อบบี้ยิสต์ในวอชิงตัน หวังฟื้นสัมพันธ์สหรัฐฯ เจรจาลดภาษี–ยกเลิกคว่ำบาตร
9-8-2025
Reuters รายงานว่า รัฐบาลเมียนมา (Myanmar) โดยกระทรวงข้อมูลข่าวสาร ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ชั้นนำจากวอชิงตัน DCI Group ด้วยมูลค่าสูงถึง $3 ล้านต่อปี เพื่อช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา (United States) หลังเผชิญแรงกดดันการเมืองและมาตรการคว่ำบาตรต่อเนื่องมาตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหารปี 2021.
เอกสารอย่างเป็นทางการที่ยื่นต่อ U.S. Foreign Agents Registration Act (FARA) ระบุว่า ข้อตกลงนี้มีขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันที่คณะรัฐบาลทหารเมียนมาแจ้งการ “โอนอำนาจ” ให้กับรัฐบาลพลเรือนชั่วคราวก่อนถึงกำหนดเลือกตั้ง แม้จะมีรัฐบาลชั่วคราว แต่ พล.อ. มินอ่องหล่าย (Min Aung Hlaing) ยังคงถืออำนาจบริหาร ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรักษาการและผู้บัญชาการกองทัพสูงสุดอยู่เช่นเดิม
ดีลนี้มีเป้าหมายชัดว่า DCI Group จะให้บริการด้าน “public affairs” และการประสานสื่อภาพลักษณ์ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ เมียนมา-สหรัฐฯ ผ่านบทบาทด้านการค้า ทรัพยากรธรรมชาติ และงานบรรเทาทุกข์มนุษยธรรม. ผู้ลงนามประกอบด้วย Justin Peterson อดีตผู้บริหารในรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) และ Brian McCabe ผู้บริหาร DC อีกคนหนึ่ง
ในปี 2021 บริษัทล็อบบี้จากอิสราเอล-แคนาดาเคยถูกว่าจ้างให้ทำหน้าที่ในลักษณะเดียวกัน แต่ยุติบทบาทลงเนื่องจากไม่สามารถรับเงินได้จากเมียนมาภายใต้ข้อกำหนดคว่ำบาตรสหรัฐฯ ฝ่าย DCI Group, กระทรวงการคลังสหรัฐฯ (Treasury), กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และสถานทูตเมียนมาในวอชิงตัน ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการต่อประเด็นว่าดีลใหม่นี้จะถูกข้อจำกัดจากมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่
แนวโน้มนี้เกิดขึ้นขณะที่ฝ่ายเมียนมาพยายามสร้างบทสนทนาใหม่กับทำเนียบขาว โดยล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งจดหมายส่วนตัวถึง พล.อ. มินอ่องหล่าย ประกาศขึ้นภาษีสินค้าส่งออกจากเมียนมาไปยังสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ “สงครามการค้าโลก” ฝ่ายเมียนมาตอบกลับพร้อมยกย่องทรัมป์เป็น “ผู้นำเข้มแข็ง” และแสดงความตั้งใจส่งทีมเจรจาไปวอชิงตันหากจำเป็น พร้อมเรียกร้องให้ลดอัตราภาษีและยกเลิกคว่ำบาตร.
แหล่งข่าวระบุว่าความร่วมมือกับ DCI Group ยังมีเป้าหมายด้านทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะสินค้าแร่หายาก (rare earth minerals) ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ–จีน (China) ที่ปัจจุบันจีนถือครองกำลังการผลิตกว่า 90% ของตลาดแปรรูปโลก รายงานยังเผยว่า ฝ่ายสหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณาหลายข้อเสนอให้เบี่ยงเบนซัพพลายแร่หายากของเมียนมาออกจากจีน แม้จะเจออุปสรรคโลจิสติกส์และภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน
การว่าจ้าง DCI Group ย้อนประวัติการเมืองเก่า โดยในปี 2008 ทีมงานของ John McCain ซึ่งเคยร่วมงานกับบริษัทฯ ต้องลาออกจากตำแหน่งหลังถูกเปิดเผยความสัมพันธ์กับคณะรัฐประหารชุดก่อนของเมียนมา Jim Murphy อดีตประธานบริษัทฯ เคยเป็นผู้จัดการแคมเปญการเมืองให้กับทรัมป์ปี 2016 ด้วย
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเมียนมายังเผชิญคำวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐฯ เช่น การใช้ความรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา (Rohingya) ซึ่งถูกวอชิงตันตีความเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” แม้เมื่อเดือนที่แล้ว ฝ่ายสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพันธมิตรบางรายของรัฐบาลทหารเมียนมา โดยย้ำว่านี่ไม่ใช่ท่าทีเปลี่ยนแปลงนโยบายต่อระบอบทหารเมียนมาโดยรวม
ล่าสุด รัฐบาลเมียนมายังจัดการเปลี่ยนผ่านผู้นำอีกครั้งหลังอดีตประธานาธิบดี มยินท์ สเว (Myint Swe) ถึงแก่อสัญกรรมในโรงพยาบาลเมื่อวันพฤหัสบดี โดย พล.อ. มินอ่องหล่ายยังคงรับบทบาทเป็นผู้นำตามโครงสร้างอำนาจเดิม.
สำหรับดีลรับจ้างล็อบบี้สหรัฐฯ ครั้งนี้ของเมียนมา ถือเป็นกลยุทธ์ใหม่ในการรีแบรนด์ภาพลักษณ์และฟื้นสัมพันธ์ทวิภาคีท่ามกลางแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยมีจุดหมายชัดที่การค้าทรัพยากรยุทธศาสตร์และการเจรจาคลี่คลายข้อพิพาทด้านคว่ำบาตรและภาษี ภายใต้กรอบการเมืองโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคทรัมป์และการแข่งขันกับจีน
----
IMCT NEWS
ที่มา ที่มา https://www.reuters.com/world/china/myanmar-signs-deal-with-washington-lobbyists-rebuild-us-relations-2025-08-08/