อิหร่านปรับยุทธศาสตร์ หันใช้ระบบนำทางดาวเทียม

อิหร่านปรับยุทธศาสตร์ หันใช้ระบบนำทางดาวเทียม BeiDou ของจีน แทนที่ GPS สหรัฐฯ
9-8-2025
SCMP รายงานว่า อิหร่านเดินหน้าพึ่งพาระบบนำทางดาวเทียม BeiDou ของจีน รับมือความเสี่ยงความมั่นคงและสงครามเทคโนโลยี อิหร่าน (Iran) เตรียมยกระดับความร่วมมือทางเทคโนโลยีกับจีน (China) ด้วยการนำระบบดาวเทียมนำทาง BeiDou (เป่ยโต้ว) มาใช้แทนที่ GPS ของสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขจุดอ่อนในระบบความมั่นคง หลังความเสียหายรอบล่าสุดจากความขัดแย้งทางทหารกับอิสราเอล (Israel) และสหรัฐฯ ในสงคราม 12 วันที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านทหารและโครงการนิวเคลียร์
นายเอห์ซาน ชิตซาซ (Ehsan Chitsaz) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมอิหร่าน เปิดเผยกับสื่อในประเทศว่า ในช่วงสงครามดังกล่าว อิหร่านได้ตั้งใจรบกวนสัญญาณ GPS เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธจากฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ส่งผลให้ระบบนำทางและบริการที่เกี่ยวข้องในประเทศหยุดชะงัก กระทบการขนส่ง เกษตรกรรม และกลุ่มประชากรในวงกว้าง อิหร่านจึงวางแผนจะโยกย้ายบริการ location-based services หลายภาคส่วนมายังระบบ BeiDou ภายใต้ความร่วมมือที่กำลังเร่งเจรจากับจีน
นักวิเคราะห์หลายรายเห็นตรงกันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของอิหร่าน เป็น “กลยุทธ์ความมั่นคง” ที่สั่งสมจากประสบการณ์ความเปราะบางด้านเทคโนโลยีตะวันตก โดย นายอาลี อักบาร์ ดาเรนี (Ali Akbar Dareini) จากศูนย์ยุทธศาสตร์ศึกษาแห่งเตหะราน ระบุว่า ปฏิบัติการรบกวน GPS ในสงครามกับอิสราเอลเมื่อเดือนมิถุนายนชี้ชัดว่า “อิหร่านต้องเร่งหาทางเลือกใหม่เพื่อลดการพึ่งพาระบบอเมริกัน”
ทางด้านจีน ระบบ BeiDou ประกอบด้วยดาวเทียมกว่า 60 ดวง ครอบคลุมการให้บริการทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศตามแนว Belt and Road Initiative ข้อมูลล่าสุดระบุว่า BeiDou ให้บริการกับเกือบ 140 ประเทศแล้ว โดยจีนไม่ได้มีการยืนยันการใช้ระบบนี้ในมิติการทหารให้กับประเทศใดอย่างเป็นทางการ
ความร่วมมือในด้าน BeiDou ระหว่างจีนกับอิหร่านมีจุดเริ่มตั้งแต่ปี 2020 โดยเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำกรุงปักกิ่งเคยย้ำว่าจีนจะให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีดังกล่าวกับอิหร่าน ด้านนักวิชาการต่างชาติ เช่น เอนรีโก ฟาร์เดลลา (Enrico Fardella) จาก University of Naples L’Orientale ให้มุมมองว่าการปรับเปลี่ยนมาใช้ BeiDou ถือเป็นกลยุทธ์ขยาย “อิทธิพลจีน” สู่ตะวันออกกลางในเชิงโครงข่าย “ระบบทหารดิจิทัล” ที่ไม่จำเป็นต้องตั้งฐานทัพหรือส่งกำลังพลเพิ่มในภูมิภาค
ทั้งนี้ หากอิหร่านนำ BeiDou มาใช้อย่างเต็มรูปแบบในภาคความมั่นคง จะยิ่งทำให้บทบาทและภาพลักษณ์ทางเทคโนโลยีของจีนเด่นชัดขึ้นในภูมิภาค อีกทั้ง BeiDou ยังเชื่อมต่อแบบบูรณาการกับโดรน ขีปนาวุธ และระบบข่าวกรอง ซึ่งขยายขีดความสามารถของอิหร่านโดยตรง
ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ ในภูมิภาคอ่าว เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia) ก็เร่งนำเข้าระบบและอาวุธไฮเทคของจีนมากขึ้น อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), 5G, และเทคโนโลยีอวกาศ โดยจีนจัดงาน China-Arab States BeiDou Satellite System Cooperation Forum ต่อเนื่องเพื่อเร่งขยายการใช้งานในกลุ่มตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า “การแข่งขันทางเทคโนโลยี” ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะขยายตัวในตะวันออกกลางอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต ข้อมูลล่าสุดยังชี้ว่า สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรบริษัทจีน ฮ่องกง และไต้หวันที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนเทคโนโลยีโดรนทางทหารแก่กองทัพอิหร่าน ซึ่งสะท้อนระดับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในภูมิภาค
การหันมาใช้ระบบดาวเทียม BeiDou ของจีนโดยอิหร่าน ไม่ได้เป็นเพียงมาตรการบำบัดจุดอ่อนหลังความสูญเสียในสงครามเท่านั้น แต่ยังเป็น “ยุทธศาสตร์ทางเทคโนโลยี–ความมั่นคงใหม่” ที่สะท้อนการแบ่งขั้วด้านนวัตกรรมและความร่วมมือทางดิจิทัลในภูมิรัฐศาสตร์โลกยุคใหม่ อิทธิพลของจีนในตะวันออกกลางจึงจะยิ่งขยายตัวผ่านมิติความมั่นคง การค้า และข้อมูลดิจิทัล ท่ามกลางการแข่งขันกับสหรัฐฯ ที่เข้มข้นยิ่งขึ้นในศตวรรษที่ 21
----
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3321043/iran-looks-tap-chinas-beidou-navigation-system-plug-security-gaps?module=top_story&pgtype=homepage