ทรัมป์'ประกาศขึ้นภาษีเซมิคอนดักเตอร์ 100% หนุนผลิตในสหรัฐฯ เอเชีย-ฟิลิปปินส์-มาเลเซีย หวั่นกระทบหนัก

8-8-2025

   Reuters รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เปิดเผยว่าสหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้ภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ในอัตราสูงสุดถึง 100% โดยมีข้อยกเว้นสำคัญสำหรับบริษัทที่ได้ตั้งโรงงานหรือมีพันธะลงทุนสร้างฐานการผลิตอยู่แล้วในสหรัฐฯ โดยการแถลงข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการประกาศของ Apple ว่าจะลงทุนในตลาดบ้านเกิดเพิ่มอีก 100,000 ล้านดอลลาร์

ทรัมป์ระบุว่า “สำหรับบริษัทที่ให้คำมั่นจะสร้างโรงงานในสหรัฐฯ จะไม่มีการคิดภาษี” พร้อมเตือนว่าหากบริษัทใดยื่นข้ออ้างแต่ไม่ปฏิบัติตาม จะถูกคิดภาษีย้อนหลังแบบสะสม บ่งชี้ว่ารัฐบาลมีมาตรการติดตามผลอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกในการบังคับใช้นโยบายนี้ ถูกนำเสนอเป็น “ถ้อยแถลงเชิงรุก” แต่ยังไม่ใช่คำสั่งอย่างเป็นทางการ

การประกาศอัตราภาษี 100% บนเซมิคอนดักเตอร์นี้ออกมาก่อนที่ภาษีสินค้าอื่นๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าอุตสาหกรรมจะเริ่มบังคับใช้อีก 10%-50% โดยในวันพฤหัสบดีนี้ สินค้าหลายร้อยรายการจากกลุ่มคู่ค้าสำคัญจะเริ่มเสียภาษีตามโครงสร้างใหม่ ขณะที่ผลการสอบสวนด้านความมั่นคงใกล้ประกาศอย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือนสิงหาคม

**ผลกระทบถ้วนหน้า เอเชีย-ฟิลิปปินส์-มาเลเซียหวั่นเสียเปรียบ**

ประกาศของทรัมป์จุดกระแสความกังวลอย่างกว้างขวางในวงการอุตสาหกรรมโลก ประเทศเกาหลีใต้ได้รับการยืนยันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าบริษัทใหญ่จากเกาหลี ได้แก่ Samsung Electronics และ SK Hynix จะได้รับการยกเว้นภาษีสูงสุด ภายใต้ข้อตกลงการค้ากับวอชิงตัน ฟากไต้หวัน TSMC ซึ่งลงทุนสร้างโรงงานในอเมริกาแล้ว ก็ได้รับผลกระทบน้อยเช่นกัน ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิปเอเชียที่มีฐานในสหรัฐฯ ปรับตัวบวกแรง

ในไฟลิปปินส์ Dan Lachica ประธานสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กล่าวว่า แผนภาษีของทรัมป์จะส่งผล “รุนแรง” ต่อประเทศซึ่งเป็นฐานสำคัญด้านการทดสอบและบรรจุภัณฑ์ชิ้นส่วนชิป เช่นเดียวกับมาเลเซีย รัฐมนตรีการค้า Tengku Zafrul Aziz เตือนว่า หากสินค้าไม่แข่งขันได้เพราะภาษี ก็อาจสูญเสียตลาดอเมริกาทันที

**บริษัทยักษ์ใหญ่เน้นลงทุน–ผู้เล่นเล็กเสี่ยงมากขึ้น**

ข้อมูลจากฝ่ายเศรษฐกิจการลงทุนชี้ว่า เฉพาะบริษัทใหญ่ที่มีเงินทุนและแผนสร้างโรงงานในสหรัฐฯ จริงเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์สูงสุด เช่น Apple, TSMC, Samsung, SK Hynix, Nvidia ขณะที่ GlobalWafers จากไต้หวันซึ่งมีโรงงานในเท็กซัส ราคาหุ้นพุ่งถึง 10% ทันที ด้วยความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถรักษาศักยภาพการแข่งขันต่อสหรัฐฯ ได้

ฝั่งยุโรปและญี่ปุ่น ต่างได้รับรองจากสหรัฐฯ ว่าจะไม่ประสบอัตราภาษีที่เสียเปรียบ โดยสหภาพยุโรปผ่านข้อตกลงภาษีเดี่ยว 15% สำหรับสินค้าหลัก รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ ขณะที่ญี่ปุ่นชี้แจงว่าข้อตกลงดังกล่าวยังไม่ทำให้เสียเปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดอเมริกา

**ภาษีชิ้นส่วนจีน กระทบบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ทางอ้อม*

นักวิเคราะห์จาก Peterson Institute for International Economics อธิบายว่าชิ้นส่วนที่ผลิตโดย SMIC หรือ Huawei ซึ่งเป็นบริษัทจีนแทบไม่ได้รับการยกเว้นภาษี อย่างไรก็ดี ชิ้นส่วนเหล่านี้จำนวนมากถูกนำเข้าในรูปแบบที่ผนวกรวมมากับอุปกรณ์หรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ประกอบในจีน จึงต้องจับตาว่า โครงสร้างภาษีนำเข้าจะครอบคลุมสินค้าสำเร็จรูปหรือวัตถุดิบพื้นฐานด้วยหรือไม่

**อนาคตอุตสาหกรรมชิปในสหรัฐฯ แข่งขันดุ**

ช่วงปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ออกมาตรการดึงดูดการลงทุนในประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีงบส่งเสริมการผลิตและวิจัยด้านเซมิคอนดักเตอร์มากถึง 52.7 พันล้านดอลลาร์ กระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลโจ ไบเดน (Joe Biden) ประสบความสำเร็จดึงผู้นำอุตสาหกรรมโลกทั้ง 5 ให้เปิดโรงงานใหม่ในสหรัฐฯ ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดผลิตชิปในอเมริกายังต่ำเพียง 12% จากระดับสูงสุด 40% เมื่อปี 1990

นักวิเคราะห์ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คือ “เกมสำหรับรายใหญ่” เพราะเฉพาะบริษัทที่มีทุนเพียงพอ สร้างโรงงานในสหรัฐฯ จริงเท่านั้นที่จะอยู่รอดและได้ประโยชน์จากสิทธิยกเว้นภาษี

การผลักดันนโยบายดังกล่าวนับเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญในศึกเทคโนโลยีโลก ที่บริษัทขนาดกลางและเล็กในเอเชียและ Global South อาจกลายเป็นผู้เสียเปรียบในตลาดอเมริกา ขณะที่ทุนใหญ่กำลังไล่ล็อกส่วนแบ่งและขยายอิทธิพลด้านห่วงโซ่เทคโนโลยีต่อเนื่อง

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.reuters.com/world/china/trump-says-us-levy-100-tariff-imported-chips-some-firms-exempt-2025-08-07/