.

ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีน แนะปักกิ่งควรเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.5 ล้านล้านหยวน สู้แรงกดดันสงครามการค้า
12-7-2025
มีรายงานจาก Bloomberg ว่า กลุ่มนักวิชาการนำโดยหวง อี้ผิง (Huang Yiping) สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China – PBOC) ออกโรงเสนอให้รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1-1.5 ล้านล้านหยวน (ราว 209,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใน 12 เดือน เพื่อหนุนการบริโภคภาคครัวเรือนและรักษาเสถียรภาพค่าเงิน รับมือแรงกดดันจากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นและปัญหาเงินฝืดในประเทศ
รายงานฉบับนี้ ซึ่งร่วมเขียนโดยกัว ไค (Guo Kai) อดีตรองผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการเงิน PBOC และอัลเฟรด ชิปเก (Alfred Schipke) ผู้อำนวยการ East Asian Institute มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ระบุว่า เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญ “แรงกระทบใหม่” ตั้งแต่เดือนเมษายน จากการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ร่วมกับภาวะเงินฝืดที่ยังดำเนินต่อเนื่อง
“จีนต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกมากขึ้น พร้อมเร่งปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อรักษาการเติบโตที่มั่นคง”
– หวง อี้ผิง และคณะ
นักวิชาการกลุ่มนี้เสนอว่า รัฐบาลควรพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1-1.5 ล้านล้านหยวนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพื่อหนุนการบริโภคภาคครัวเรือนโดยตรงและบรรเทาผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะอยู่ในช่วง 20-30% ซึ่งสูงกว่ามาตรการที่รัฐบาลกลางวางแผนไว้ในปีนี้ที่ 300,000 ล้านหยวนจากการออกพันธบัตรพิเศษระยะยาวเพื่ออุดหนุนการบริโภค
นอกจากนี้ รายงานยังเสนอให้ PBOC ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม และผลักดันให้ธนาคารพาณิชย์ลด Loan Prime Rate (LPR) เพื่อหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งรักษาความยืดหยุ่นของเงินหยวน (RMB) เพื่อรองรับแรงกระแทกจากภายนอก
อย่างไรก็ตาม กัว ไค เตือนว่าการลดดอกเบี้ยต่ำกว่าศูนย์อาจกระทบกำไรธนาคารและเสถียรภาพการเงิน โดยแนะนำให้ใช้เครื่องมือ “กึ่งการคลัง” เช่น Pledged Supplemental Lending ที่เคยใช้หนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ช่วงวิกฤตเมื่อสิบปีก่อน
ในระยะยาว รายงานเสนอให้รัฐบาลขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและปรับโครงสร้าง VAT เพื่อความยั่งยืนทางการคลัง รวมถึงบริหารความเสี่ยงหนี้เสียของกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ซึ่งยอดสินเชื่อคงค้างต่อกลุ่มนี้สูงถึง 60% ของ GDP เพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2019 และแซงหน้าหนี้ของหน่วยงานท้องถิ่น
ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าปักกิ่งจะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในช่วงต่อไป เพื่อป้องกันการชะลอตัวของการส่งออกและฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภค ท่ามกลางตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังซบเซาและแรงกดดันเงินฝืดยังคงอยู่
เสียงเรียกร้องจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการเงินจีนครั้งนี้ สะท้อนความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่และปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อรับมือแรงกดดันจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ และปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างรอบด้าน
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-07-11/pboc-adviser-urges-209-billion-stimulus-to-counter-us-tariffs?utm_source=website&utm_medium=share&utm_campaign=copy