.

สหรัฐเผชิญวิกฤตแรงงานโรงงานกว่า 400,000 ตำแหน่งว่าง ผลจากภาษีนำเข้า-ขาดคนรุ่นใหม่-แรงงานต่างด้าวถูกผลักดัน
12-7-2025
Chinadaily รายงานว่า ภาคการผลิตของสหรัฐกำลังประสบภาวะขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก โดยมีตำแหน่งงานว่างกว่า 400,000 ตำแหน่ง ตามข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ขณะที่บริษัทต่าง ๆ ระบุว่าการวางแผนธุรกิจเป็นไปอย่างยากลำบากท่ามกลางความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีของรัฐบาล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า การเก็บภาษีสินค้านำเข้าเป็นแนวทางหนึ่งในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศ โดยกล่าวว่า
“โรงงานและงานจะกลับมาคึกคักในอเมริกาอีกครั้ง และเมื่อการผลิตเกิดขึ้นในประเทศมากขึ้น ก็จะสร้างการแข่งขันที่เข้มแข็ง และราคาที่ถูกลงสำหรับผู้บริโภค”
อย่างไรก็ตาม ขณะที่บางประเทศ เช่น จีน สหราชอาณาจักร และเวียดนาม ได้ลงนามข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ประเทศอื่น ๆ อย่างน้อย 14 ประเทศ เพิ่งได้รับจดหมายจากทรัมป์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะถูกเก็บภาษีเพิ่ม โดยหวังเร่งการเจรจาภายในเส้นตายใหม่ 1 สิงหาคม
ในบรรดามาตรการล่าสุด สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้า 25% จากตูนิเซีย มาเลเซีย และคาซัคสถาน, 30% จากบอสเนียฯ, 32% จากอินโดนีเซีย, 35% จากเซอร์เบียและบังกลาเทศ, 36% จากกัมพูชาและไทย, และ 40% จากลาวและเมียนมา ตามรายงานของรอยเตอร์
นักเศรษฐศาสตร์ โธมัส ฟูลเลอร์ตัน จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส เอลปาโซ กล่าวว่า “ภาษีสูงกำลังเพิ่มต้นทุนอย่างไม่จำเป็น ทั้งในด้านวัตถุดิบเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดง และไม้แปรรูป”
แม้เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ราคาสินค้าที่สูงขึ้นจากต้นทุนก็อาจกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม
ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า จากจุดสูงสุดในปี 1979 ที่แรงงานภาคการผลิตมีสัดส่วนถึง 22% ของตลาดแรงงาน สหรัฐฯ เหลือเพียง 8% ในปี 2024 หลังจากการย้ายฐานการผลิตไปยังจีนและประเทศต้นทุนต่ำอื่น ๆ ตั้งแต่ยุค 1980
ในปี 2020 จีนมีแรงงานภาคการผลิตคิดเป็น 28.7% ของแรงงานทั้งหมด ใกล้เคียงกับยุครุ่งเรืองของอเมริกาเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน
ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตแห่งชาติของสหรัฐฯ (NAM) ระบุว่า การหาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม คือปัญหาอันดับหนึ่งของบริษัทสมาชิก และความไม่แน่นอนทางการค้ากลายเป็นความกังวลอันดับต้น ๆ อย่างต่อเนื่อง
แม้สหรัฐฯ จะมีผู้จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยจำนวนมาก แต่ผู้ประกอบการกลับชี้ว่า “ส่วนใหญ่ไม่มีทักษะตรงกับงานโรงงาน”
นอกจากนี้ การปราบปรามแรงงานผิดกฎหมาย ทำให้แรงงานในภาคอาหารและการผลิตขาดหายไปจำนวนมาก โดยศูนย์ศึกษาการย้ายถิ่นแห่งนิวยอร์กประเมินว่า ในปี 2023 มีแรงงานไร้เอกสารกว่า 8.3 ล้านคน ทำงานในสหรัฐฯ และในจำนวนนั้นราว 200,000 คน อยู่ในภาคการผลิต
ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ได้ริเริ่มโครงการ Make America Skilled Again มอบเงินอุดหนุนให้รัฐต่าง ๆ ที่จัดฝึกอาชีพ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องกันงบ 10% ไปใช้ฝึกงานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โปรแกรมยอดนิยมอย่าง Job Corps ที่เคยให้การฝึกอาชีพฟรีแก่เยาวชนอายุ 16–24 ปี กลับถูกตัดงบอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน โรงงานต่าง ๆ ก็กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัตโนมัติ โดยรายงานของสหพันธ์หุ่นยนต์นานาชาติระบุว่า ในปี 2023 สหรัฐฯ มี “ความหนาแน่นของหุ่นยนต์” เฉลี่ย 197 หน่วยต่อพนักงาน 10,000 คน เพิ่มขึ้น 4.2% จากปี 2016
แม้สหรัฐฯ จะเป็นอันดับ 10 ของโลกด้านระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม แต่จีนกลับแซงหน้าทั้งอเมริกา เยอรมนี และญี่ปุ่นไปแล้ว ตามผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
----
IMCT NEWS
https://www.chinadaily.com.cn/a/202507/10/WS686f048aa31000e9a573b28a.html