ปธน.บราซิล ลูลา เตรียมตอบโต้ หากทรัมป์ขึ้นภาษี

ปธน.บราซิล ลูลา เตรียมตอบโต้ หากทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบราซิล 50%
11-7-2025
BBC รายงานว่า ประธานาธิบดีลุยซ์ อีนาซีโอ ลูลา ดา ซิลวา (Luiz Inácio Lula da Silva) ของบราซิล ประกาศพร้อมตอบโต้หากสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบราซิล 50% ตามที่ขู่ไว้
คำประกาศของลูลา มีขึ้นหลังจากทรัมป์ส่งจดหมายขู่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากบราซิลในอัตรา 50% ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม โดยอ้างว่ามีสาเหตุมาจากการดำเนินคดีต่ออดีตประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ซึ่งกำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาพยายามทำรัฐประหารหลังพ่ายแพ้ให้กับลูลาในการเลือกตั้งปี 2022
ทรัมป์เรียกโบลโซนาโรว่าเป็น “ผู้นำที่ได้รับความเคารพอย่างสูงจากทั่วโลก” และระบุว่าคดีนี้ “ไม่ควรเกิดขึ้น” พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลบราซิลยุติสิ่งที่เขาเรียกว่า “การล่าแม่มด” กับอดีตผู้นำคนนี้ ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ไม่ได้สร้างความแปลกใจนัก เนื่องจากเขากับโบลโซนาโรถือเป็นพันธมิตรกันมานาน
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ ทรัมป์ยังเคยวิจารณ์บราซิลเรื่องการปฏิบัติต่อโบลโซนาโร พร้อมเปรียบเทียบกับคดีความที่เขาเองเผชิญอยู่ในสหรัฐฯ สำหรับคำขู่ล่าสุดเรื่องการเก็บภาษี ลูลาได้ตอบโต้อย่างแข็งกร้าวผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) โดยระบุว่า “บราซิลเป็นประเทศอธิปไตยที่มีสถาบันเป็นอิสระ และจะไม่ยอมรับการควบคุมจากภายนอก”
เขายังประกาศว่า หากสหรัฐฯ เพิ่มภาษีฝ่ายเดียว บราซิลก็จะตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในระดับเดียวกัน ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของบราซิลรองจากจีน การขึ้นภาษีนำเข้าจาก 10% เป็น 50% หากมีผลจริง ย่อมส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจบราซิล
นอกจากนี้ ลูลายังโต้แย้งคำกล่าวอ้างของทรัมป์ที่ว่าบราซิลได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯ โดยชี้ว่าข้อมูลดังกล่าว “ไม่ถูกต้อง” ซึ่งข้อมูลจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ระบุว่า สหรัฐฯ มีดุลการค้าเกินดุลกับบราซิลถึง 7.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024
บราซิลเป็นคู่ค้าอันดับ 15 ของสหรัฐฯ โดยสินค้าหลักที่บราซิลนำเข้าจากสหรัฐฯ ได้แก่ เชื้อเพลิง เครื่องบิน และเครื่องจักร ส่วนสินค้าหลักที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ ก๊าซและปิโตรเลียม แร่เหล็ก และกาแฟ
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังได้ส่งจดหมายเตือนไปยังอีก 22 ประเทศ รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และศรีลังกา เกี่ยวกับการขึ้นภาษีเช่นเดียวกัน แต่เฉพาะจดหมายถึงบราซิลเท่านั้นที่กล่าวถึงประเด็นทางการเมืองนอกเหนือจากการค้าขาดดุล
ในจดหมาย ทรัมป์ยังประณามคำสั่งจากศาลบราซิลที่ให้ระงับบัญชีโซเชียลมีเดียของบางราย ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์ม Truth Social ของ Trump Media ที่ทรัมป์เป็นเจ้าของหลัก โดยเขากล่าวหาว่าบราซิลมีคำสั่ง “ลับและผิดกฎหมาย” ที่มุ่งเซ็นเซอร์เนื้อหาในสหรัฐฯ
ลูลาโต้กลับว่า คำสั่งเหล่านั้นมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสังคมบราซิลจาก “เนื้อหาแห่งความเกลียดชัง การเหยียดเชื้อชาติ สื่อลามกเด็ก การหลอกลวง และคำพูดที่คุกคามสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพประชาธิปไตย”
ราฟาเอล กอร์เตซ นักรัฐศาสตร์จากบริษัทที่ปรึกษา Tendências Consultoria ให้สัมภาษณ์กับ BBC News Brasil ว่า ท่าทีของทรัมป์อาจกลับเป็นผลดีต่อลูลาในประเทศ “ทุกครั้งที่ทรัมป์หรือผู้นำอนุรักษนิยมแทรกแซงประเด็นการเมืองในประเทศอื่น ผู้นำฝ่ายตรงข้ามมักได้คะแนนนิยมกลับคืน” เขายกตัวอย่างกรณีที่เคยเกิดขึ้นในเม็กซิโก แคนาดา และออสเตรเลีย
ด้านเครโอมาร์ เดอ ซูซา นักวิเคราะห์จาก Dharma Politics ให้สัมภาษณ์กับ BBC News Mundo ว่า หากรัฐบาลลูลาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและเป็นเอกภาพในการตอบโต้ครั้งนี้ ก็อาจ “ทำประตูใส่ทรัมป์ได้” เช่นกัน
---
IMCT NEWS
ที่มาhttps://www.bbc.com/news/articles/c62dvyv60z7o