.

Saxo Bank คาดทองคำ เงิน และแพลตินัมยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อในครึ่งปีหลัง 2025
10-7-2025
Kitco News รายงานว่า หลังจากราคาทองคำ เงิน และแพลทินัมสร้างผลงานโดดเด่นในช่วงครึ่งปีแรก 2025 หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่าแรงขับเคลื่อนของตลาดโลหะมีค่าจะหมดลงแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โอเล่ แฮนเซน (Ole Hansen) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank ยืนยันว่า ปัจจัยหนุนหลักยังคงอยู่ครบถ้วน และมีแนวโน้มจะมีแรงขับเคลื่อนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
แฮนเซนระบุว่า หลังจากราคาทองคำปรับขึ้นแรงจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงพักฐาน โดยราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบตลอด 12 สัปดาห์ที่ผ่านมา เปิดโอกาสให้เงินและแพลทินัมได้ไล่ตามทัน ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ราว 26% สำหรับทองและเงิน และสูงถึง 54% สำหรับแพลทินัม
ปัจจัยสำคัญที่ยังคงหนุนราคาทองคำและโลหะมีค่าอื่น ๆ ได้แก่ โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งจะดึงดูดเม็ดเงินกลับเข้าสู่กองทุน ETF ที่อ้างอิงโลหะมีค่า เพราะต้นทุนโอกาสของการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ก่อดอกเบี้ยจะลดลงเมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น นอกจากนี้ ทองคำยังคงได้รับความนิยมในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่ไร้ความเสี่ยงทางการเมือง ต่างจากพันธบัตรหรือเงินตราของประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงไม่แปลกใจที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
อีกปัจจัยที่หนุนราคาคือความอ่อนค่าของดอลลาร์ แม้ผลตอบแทนทองคำจะสูงสุดเมื่อวัดเป็นดอลลาร์ แต่ในสกุลเงินอื่น ๆ เช่น ฟรังก์สวิสหรือยูโร ผลตอบแทนจะอยู่ที่ราว 11% ส่วนในจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ ผลตอบแทนใกล้เคียงกับในสหรัฐฯ
แม้ทองคำจะพักตัวและยังขาดปัจจัยบวกใหม่ ๆ ในระยะสั้น แต่แฮนเซนชี้ว่าความต้องการจากธนาคารกลาง ความเสี่ยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ แบบ stagflation ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การคว่ำบาตรและสงครามการค้า รวมถึงการโยกย้ายพอร์ตของกองทุนความมั่งคั่งและนักลงทุนสถาบันจากหุ้นและพันธบัตรสหรัฐฯ มาสู่สินทรัพย์ที่จับต้องได้อย่างโลหะมีค่า จะยังคงเป็นแรงหนุนสำคัญ
ในด้านเทคนิค ทองคำยังอยู่ในช่วงพักฐาน โดยมีแนวรับสำคัญที่ 3,245 ดอลลาร์ และ 3,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 2,945 ดอลลาร์ อาจเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง แต่ตราบใดที่ยังยืนเหนือระดับนี้ได้ สัญญาณเชิงบวกยังคงอยู่
สำหรับเงิน แฮนเซนชี้ว่าการทะลุ 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นสัญญาณบวกสำคัญ โดยตลาดเงินยังเผชิญภาวะขาดแคลนเชิงโครงสร้างตั้งแต่ปี 2019 จากความต้องการที่สูงกว่าปริมาณเหมืองผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สต็อกเงินที่มีอยู่ลดลง หากเงินสามารถรักษาระดับเหนือ 35 ดอลลาร์ได้ มีโอกาสเห็นราคาขยับขึ้นแตะ 40 ดอลลาร์ภายใน 6-12 เดือนข้างหน้า
ขณะที่แพลทินัมกลายเป็นดาวเด่นของตลาดปีนี้ หลังทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1,025 ดอลลาร์และหลุดกรอบขาลงที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2008 ปัจจัยพื้นฐานก็เริ่มหนุนมากขึ้น โดย World Platinum Investment Council คาดการณ์ว่าปีนี้จะขาดดุลต่อเนื่องเป็นปีที่สาม ความต้องการจากอุตสาหกรรมยานยนต์ (โดยเฉพาะรถไฮบริดและดีเซล) และการลงทุนในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้การถือครอง ETF ที่อ้างอิงแพลทินัมจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่หากปัจจัยพื้นฐานตึงตัวขึ้น อาจเห็นกระแสเก็งกำไรระลอกใหม่ได้เช่นกัน
โดยสรุป Saxo Bank มองว่าทองคำ เงิน และแพลทินัมยังมีแนวโน้มขาขึ้นต่อในครึ่งปีหลัง 2025 แม้ตลาดจะพักฐานและไร้ปัจจัยกระตุ้นใหม่ในระยะสั้น แต่ปัจจัยพื้นฐานและความเสี่ยงรอบด้านยังคงสนับสนุนการลงทุนในโลหะมีค่าอย่างแข็งแกร่ง
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.kitco.com/news/article/2025-07-09/gold-silver-and-platinum-are-all-poised-further-gains-h2-2025-saxos-hansen