ยุโรปผลักดันเจรจา สงครามอิสราเอล-อิหร่าน ทรัมป์เลื่อนตัดสินใจทางทหาร 'อิสราเอลเปลี่ยนจากโจมตีนิวเคลียร์ สู่การโค่นล้มระบอบอิหร่าน

21-6-2025

   มีรายงานจาก Boomberg ว่า การเจรจาเพื่อลดความตึงเครียดในสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ดำเนินมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ได้เริ่มขึ้นที่กรุงเจนีวาในวันศุกร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ของสหรัฐอเมริกาส่งสัญญาณว่าจะให้โอกาสการทูตก่อนที่จะตัดสินใจเข้าแทรกแซงทางทหาร

  อับบาส อาราฆชี (Abbas Araghchi) รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านได้พบปะกับคู่เจรจาจากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี เพื่อหารือในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ประเด็นนิวเคลียร์และภูมิภาค" เกี่ยวกับความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ของฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในผู้นำที่เรียกร้องให้อิหร่านกลับมาเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์

  ราคาน้ำมันปรับลดลงหลังจากมีรายงานจาก Reuters ว่าอิหร่านพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับข้อจำกัดในการเสริมสมรรถภาพยูเรเนียม แต่จะไม่พิจารณาหยุดการดำเนินการโดยสิ้นเชิงในขณะที่ยังถูกโจมตีทางทหาร ก่อนที่การเจรจากับสหรัฐอเมริกาจะถูกระงับ กรุงเตหะรานได้ส่งสัญญาณความยินดีที่จะยอมรับข้อจำกัดบางประการเกี่ยวกับกิจกรรมการเสริมสมรรถภาพของตน ในขณะที่อิสราเอลและสหรัฐอเมริการะบุว่าไม่ควรอนุญาตให้สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านเสริมสมรรถภาพยูเรเนียมเลย

  อาราฆชีกล่าวหาอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ว่าทำลายกระบวนการทูตด้วยการโจมตี โดยแจ้งต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติว่าเจ้าหน้าที่อิหร่านมีกำหนดการจัดการเจรจาทางอ้อมรอบต่อไปกับคู่เจรจาสหรัฐอเมริกาเพื่อ "ร่างข้อตกลงที่มีแนวโน้มดี" ซึ่งจะนำไปสู่ความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์

  อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีอิหร่านอย่างกะทันหันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าภัยคุกคามจากศัตรูคู่อาฆาตในการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์จำเป็นต้องถูกกำจัด อิหร่านตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและ UAV โดรนหลายคลื่น และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทั้งสองฝ่าย

  ทรัมป์ซึ่งมีกำหนดเข้าร่วมประชุมความมั่นคงแห่งชาติที่ห้อง Oval Office ในวันศุกร์ ได้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณชนเป็นเวลาหลายวันเกี่ยวกับการที่สหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมการต่อสู้ แต่ดูเหมือนจะถอยกลับหลังจากใช้วาทกรรมแข็งกร้าวต่อเนื่อง รวมถึงการเรียกร้องให้ประชาชนกรุงเตหะรานอพยพ และการขู่ต่อผู้นำสูงสุดของอิหร่านอายาตุลลอห์ อาลี คาเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei)

  ทรัมป์กล่าวในข้อความที่ปรึกษาได้บอกเล่าตามรายงานของโฆษกทำเนียบขาวแคโรไลน์ ลีวิตต์ (Karoline Leavitt) ว่า "จากข้อเท็จจริงที่ว่ามีโอกาสสูงที่การเจรจาอาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นกับอิหร่านในอนาคตอันใกล้ ผมจะตัดสินใจว่าจะดำเนินการหรือไม่ภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า"

  อิสราเอลไม่แสดงทีท่าว่าจะถอยกลับ อิสราเอล แคทซ์ (Israel Katz) รัฐมนตรีกลาโหมได้สั่งการให้กองทัพโจมตีสถานที่ผลิตนิวเคลียร์และนักวิทยาศาสตร์ของอิหร่านต่อไป และดำเนินการอพยพประชาชนออกจากกรุงเตหะรานเป็นวงกว้าง ซึ่งเขาระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามบ่อนทำลายระบอบการปกครองอิหร่าน

เอลี โคเฮน (Eli Cohen) รัฐมนตรีพลังงานของอิสราเอลกล่าวกับสถานี Army Radio ว่าอิหร่านจะไม่สามารถได้รับอาวุธนิวเคลียร์ ไม่ว่าสหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมปฏิบัติการหรือไม่ แม้ว่าการมีส่วนร่วมของสหรัฐอเมริกาจะเป็นประโยชน์

  กองกำลังป้องกันอิสราเอล (Israel Defense Forces) เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่าได้ดำเนินการโจมตีเป้าหมายใหม่หลายสิบแห่ง โดยโจมตีโรงงานผลิตขีปนาวุธและสำนักงานใหญ่ของหน่วยรักษาความมั่นคงภายในประเทศในกรุงเตหะราน รวมถึงหน่วยงานวิจัยและพัฒนาของโครงการอาวุธนิวเคลียร์อิหร่าน ในขณะเดียวกัน หน่วยดับเพลิงของอิสราเอลรายงานว่าขีปนาวุธตกในพื้นที่เทลอาวีฟและภาคใต้ของประเทศ

  ทหารสหรัฐอเมริกาประมาณ 50,000 นายประจำการอยู่ในตะวันออกกลาง ตามข้อมูลการวิจัยของ Bloomberg และกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา โดยรวมถึงทหาร นาวิกโยธิน และพนักงานกระทรวงกลาโหมที่ประจำการในภูมิภาค ในอียิปต์มีทหารสหรัฐอเมริกา 465 นายทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ในคาบสมุทรไซนาย และกองกำลังสหรัฐอเมริกาจำนวนเล็กน้อยใช้ท่าเรือดูกม์ในโอมานเพื่อการสนับสนุนโลจิสติกส์

  แม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลงในวันศุกร์ แต่น้ำมันดิบเบรนต์ยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 10% นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้น โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

  ธุรกิจที่ดำเนินงานในภูมิภาคแสดงความกังวลว่าความขัดแย้งอาจลุกลามและส่งผลกระทบต่อประเทศอื่น เมื่อวันพฤหัสบดี สายการบินสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินมาตรการที่ไม่ปกติด้วยการระงับเที่ยวบินไปยังประเทศต่างๆ เช่น กาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ American Airlines Group Inc. หยุดเส้นทางบินไปโดฮาจนถึงวันที่ 22 มิถุนายน United Airlines Holdings Inc. ดำเนินการเช่นเดียวกันสำหรับดูไบ โดยระบุว่าเที่ยวบินจะกลับมาดำเนินการ "เมื่อสถานการณ์ปลอดภัย" และ AP Moller-Maersk A/S บริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ยักษ์ใหญ่ของเดนมาร์ก ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะระงับการแวะพักที่ไฮฟา ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล

  เดวิด แลมมี (David Lammy) รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักรกล่าวในแถลงการณ์ว่า "สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย ขณะนี้มีช่องทางสำหรับการหาทางออกทางการทูตภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า"

  แลมมีได้พบกับมาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา และสตีฟ วิทคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษสหรัฐอเมริกา ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่อันโตนิโอ ตาจานี (Antonio Tajani) รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลีได้โทรศัพท์หารือแยกต่างหากกับรูบิโอและอาราฆชีในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเยอรมนีฟรีดริช เมิร์ซ (Friedrich Merz) และประธานาธิบดีตุรกีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน (Recep Tayyip Erdogan) ตกลงกันในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ว่าจำเป็นต้องลดระดับความตึงเครียด และอิหร่านไม่ควรได้รับอนุญาตให้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์

  ความกังวลหลักในขณะนี้เกิดจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญว่าเป้าหมายของสงครามอิสราเอลอาจเปลี่ยนแปลงไป บาร์บารา ลีฟ (Barbara Leaf) อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาฝ่ายกิจการตะวันออกใกล้กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ Bloomberg เมื่อวันศุกร์ว่า "สิ่งที่ทุกคนเริ่มกลัวคือแนวโน้มที่ว่าสถานการณ์นี้อาจไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน และเป้าหมายของอิสราเอลได้เปลี่ยนจากการโจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์และทหารไปสู่สิ่งที่ใหญ่กว่า ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง นั่นเปิดกล่องแพนโดร่าแห่งความเป็นไปได้ต่างๆ"

สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาคและเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ขณะที่ชุมชนระหว่างประเทศพยายามหาทางออกทางการทูตก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายเกินการควบคุม

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-06-20/european-nations-lead-push-for-de-escalation-in-israel-iran-war-mc4wnjt5?utm_source=website&utm_medium=share&utm_campaign=copy