เปิดตัวเลขดุลบริการสหรัฐฯ: ได้เปรียบชัดเจนในข้อตกลงการค้าเสรี

5-5-2025

   แม้ดุลการค้าสินค้าขาดดุลของสหรัฐฯ จะเป็นประเด็นหลักบนหน้าสื่อ โดยเฉพาะในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ชูประเด็นนี้เป็นยุทธศาสตร์หลักด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทว่าความสนใจที่เน้นเพียงด้านเดียวเช่นนี้ กลับมองข้ามมิติสำคัญอีกด้านหนึ่งของสมการการค้าไป บทวิเคราะห์ภาพข้อมูลจากมูลนิธิ Hinrich ร่วมกับข้อมูลจากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (Bureau of Economic Analysis) เผยให้เห็นภาพรวมของดุลการค้าด้านบริการ ซึ่งสหรัฐฯ มี “ดุลเกินดุล” อย่างต่อเนื่องกับประเทศคู่ค้าเสรีส่วนใหญ่

การครองความเป็นใหญ่ของสหรัฐฯ ในภาคบริการ

ก่อนเริ่มสมัยที่สองของทรัมป์ สหรัฐฯ มีข้อตกลงการค้าเสรีกับ 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงแคนาดาและเม็กซิโก (ภายใต้ USMCA) และอีกหลายประเทศในอเมริกากลาง เช่น คอสตาริกา สาธารณรัฐโดมินิกัน นิการากัว เอลซัลวาดอร์ ฮอนดูรัส และกัวเตมาลา (ในกรอบ CAFTA-DR)

ข้อมูลชี้ชัดว่า สหรัฐฯ มีดุลเกินดุลด้านบริการกับ 16 จาก 20 ประเทศคู่ค้าเสรี โดยประเทศที่มีดุลเกินดุลสูงสุด ได้แก่:

 แคนาดา: +34.9 พันล้านดอลลาร์

 สิงคโปร์: +27.2 พันล้านดอลลาร์

ออสเตรเลีย: +16.0 พันล้านดอลลาร์

เกาหลีใต้: +10.7 พันล้านดอลลาร์

ชิลี: +3.1 พันล้านดอลลาร์

เม็กซิโก: +2.5 พันล้านดอลลาร์

บริการที่สหรัฐฯ ส่งออกได้มาก ได้แก่ การท่องเที่ยว บริการทางการเงิน ที่ปรึกษาทางธุรกิจ การขนส่ง การศึกษา และบริการสุขภาพ

ภาพรวมดุลการค้าทั้งสินค้าและบริการ: ไม่ได้ขาดดุลไปเสียทั้งหมด

แม้สหรัฐฯ จะขาดดุลด้านสินค้าอย่างมากกับหลายประเทศ แต่เมื่อรวมกับภาคบริการแล้ว พบว่าสหรัฐฯ มีดุลรวมเป็นบวกกับหลายประเทศคู่ค้าเสรี เช่น:

ออสเตรเลีย: +33.8 พันล้านดอลลาร์

สิงคโปร์: +30.1 พันล้านดอลลาร์

ปานามา: +10.5 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลรวมในระดับสูง เช่น:

เม็กซิโก: -179.0 พันล้านดอลลาร์

เกาหลีใต้: -55.5 พันล้านดอลลาร์

แคนาดา: -35.7 พันล้านดอลลาร์

สงครามการค้าโลก: ดุลบริการกำลังเป็นเดิมพันใหม่

นโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในยุคทรัมป์มุ่งเป้าไปที่การลดขาดดุลการค้าสินค้า แต่ ดุลเกินดุลด้านบริการ กลับกลายเป็นประเด็นที่ประเทศคู่ค้าบางรายอาจเริ่มมองว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” หากแนวคิดนี้ขยายตัว ประเทศเหล่านั้นอาจตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีที่มุ่งเป้าไปที่บริการของสหรัฐฯ

ซึ่งนั่นอาจ กระตุ้นให้เกิดสงครามการค้าในมิติใหม่ ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังเสี่ยง ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม ด้วย

ที่มา : https://www.visualcapitalist.com/sp/ranked-americas-services-trade-balances/