.

ปูติน'ยืนยัน รัสเซียพร้อมปฏิบัติการในยูเครนจนบรรลุเป้าหมายสำเร็จ 'โดยหวังว่าไม่ต้องใช้นิวเคลียร์'
5-5-2025
ผู้นำรัสเซียเชื่อมั่นมีทรัพยากรเพียงพอสู้จนจบศึกยูเครน ย้ำหลีกเลี่ยงอาวุธนิวเคลียร์ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) ว่า รัสเซียมีกำลังและทรัพยากรเพียงพอที่จะนำสงครามในยูเครนไปสู่บทสรุปตามหลักเหตุผล แม้ว่าท่านหวังว่าจะไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์
ปูตินสั่งการให้กองกำลังรัสเซียหลายพันนายเข้าสู่ยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ก่อให้เกิดความขัดแย้งภาคพื้นดินครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นการเผชิญหน้าครั้งร้ายแรงที่สุดระหว่างมอสโกกับโลกตะวันตกนับตั้งแต่ช่วงที่เลวร้ายที่สุดของสงครามเย็น
ทหารหลายแสนนายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้กล่าวซ้ำหลายครั้งว่าต้องการยุติ "การนองเลือด" ซึ่งรัฐบาลของเขามองว่าเป็นสงครามตัวแทนระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย
ในภาพยนตร์สารคดีทางโทรทัศน์ของรัฐเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของรัสเซียครบ 25 ปีของปูติน ในชื่อ "รัสเซีย เครมลิน ปูติน 25 ปี" ผู้สื่อข่าวได้ถามปูตินเกี่ยวกับความเสี่ยงของการขยายความขัดแย้งไปสู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์จากสงครามยูเครน
"พวกเขาต้องการยั่วยุให้เราทำผิดพลาด" ปูตินกล่าว ขณะยืนข้างภาพเหมือนของซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 3 จักรพรรดิแห่งศตวรรษที่ 19 ผู้เป็นนักอนุรักษ์นิยมที่ปราบปรามผู้เห็นต่าง "ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธเหล่านั้น... และผมหวังว่าจะไม่ต้องใช้มัน"
"เรามีกำลังและวิธีการเพียงพอที่จะนำสิ่งที่เริ่มต้นในปี 2565 ไปสู่บทสรุปที่มีเหตุผลด้วยผลลัพธ์ที่รัสเซียต้องการ"
ทรัมป์ส่งสัญญาณมาหลายสัปดาห์แล้วว่าเขารู้สึกผิดหวังที่มอสโกและเคียฟไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงคราม แม้ว่าเครมลินจะระบุว่าความขัดแย้งมีความซับซ้อนมากจนการคืบหน้าอย่างรวดเร็วตามที่วอชิงตันต้องการนั้นเป็นเรื่องยาก
อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ผู้นำยุโรปตะวันตก และยูเครน มองการรุกรานครั้งนี้ว่าเป็นการยึดครองดินแดนแบบจักรวรรดินิยม และให้คำมั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะเอาชนะกองกำลังรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันควบคุมพื้นที่ประมาณหนึ่งในห้าของยูเครน
ปูตินมองว่าสงครามครั้งนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับตะวันตก ซึ่งเขากล่าวว่าได้ทำให้รัสเซียอับอายหลังกำแพงเบอร์ลินพังทลายในปี 2532 ด้วยการขยายนาโตและรุกล้ำเข้าสู่สิ่งที่เขาถือว่าเป็นขอบเขตอิทธิพลของมอสโก
ทรัมป์เตือนว่าความขัดแย้งอาจพัฒนาไปสู่สงครามโลกครั้งที่สาม วิลเลียม เบิร์นส์ อดีตผู้อำนวยการซีไอเอ กล่าวว่ามีความเสี่ยงที่แท้จริงในช่วงปลายปี 2565 ที่รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อต้านยูเครน ซึ่งมอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
**ปูตินครองอำนาจ**
ปูติน อดีตพันโทเคจีบีที่ได้รับมอบตำแหน่งประธานาธิบดีในวันสุดท้ายของปี 2542 จากบอริส เยลต์ซินที่ป่วยหนัก เป็นผู้นำเครมลินที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดนับตั้งแต่โจเซฟ สตาลิน ผู้ปกครองนาน 29 ปีจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2496
ผู้ต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่ถูกจำคุกหรืออยู่ต่างประเทศ มองว่าปูตินเป็นเผด็จการที่สร้างระบบการปกครองแบบบุคคลที่เปราะบาง พึ่งพาการประจบสอพลอและการทุจริต ซึ่งกำลังนำรัสเซียไปสู่ความเสื่อมถอยและความวุ่นวาย
ผู้สนับสนุนมองว่าปูติน ซึ่งนักสำรวจความคิดเห็นรัสเซียระบุว่ามีอัตราการสนับสนุนสูงกว่า 85% เป็นผู้กอบกู้ที่ต่อต้านตะวันตกที่หยิ่งยโสและยุติความวุ่นวายที่มาพร้อมกับการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 2534
ในภาพยนตร์สารคดีทางโทรทัศน์ของรัฐที่จัดฉากอย่างระมัดระวัง ซึ่งให้ผู้ชมได้เห็นชีวิตส่วนตัวที่ปิดบังมิดชิดของประธานาธิบดีรัสเซีย ปูตินถูกแสดงให้เห็นว่ามอบช็อกโกแลตและเครื่องดื่มนมหมักแบบรัสเซียให้กับปาเวล ซารูบิน ผู้สื่อข่าวอาวุโสของเครมลิน ในห้องครัวส่วนตัวของเขาในเครมลิน
ปูตินกล่าวว่าเขาคุกเข่าสวดมนต์เป็นครั้งแรกในระหว่างวิกฤตการณ์โรงละครนอร์ด-ออสต์ในมอสโกเมื่อปี 2545 เมื่อกลุ่มติดอาวุธชาวเชเชนจับตัวประกันกว่า 900 คน ตัวประกันมากกว่า 130 คนถูกสังหาร
"ผมไม่รู้สึกเหมือนเป็นนักการเมืองคนหนึ่ง" ปูตินกล่าวถึงการครองอำนาจ 25 ปีในฐานะประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี
"ผมยังคงหายใจอากาศเดียวกันกับชาวรัสเซียหลายล้านคน มันสำคัญมาก ขอให้พระเจ้าทรงประทานให้สิ่งนี้ดำเนินต่อไปนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และไม่หายไป"
---
IMCT NEWS