เหตุใดทองคำสำรองสหรัฐฯ Fort Knox  ถูกมองว่าเป็น "ทรัพย์สินที่ถูกยึด" จากประชาชน?

11-3-2025

     ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีลอน มัสก์ วุฒิสมาชิกแรนด์ พอล และบุคคลสำคัญอื่นๆ ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบทองคำสำรองของสหรัฐฯ โดยเน้นเป็นพิเศษที่ทองคำในฟอร์ตนอกซ์ ซึ่งเป็นคลังทองคำแท่งของสหรัฐฯ ในรัฐเคนตักกี้

การเรียกร้องนี้มีเหตุผลชัดเจน เมื่อพิจารณาว่าทองคำสำรองของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ไม่ใช่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบบัญชี แม้แต่บางส่วนมานานกว่า 20 ปี

   เหตุผลสำคัญของการตรวจสอบคือเพื่อค้นหาว่ามีทองคำส่วนใดถูกนำออกไปหรือไม่ สำนักกษาปณ์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่ทำหน้าที่ดูแลทองคำ ได้รายงานมาหลายปีว่าทองคำสำรองทางการมีปริมาณ 8,133.46 เมตริกตัน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบมานาน จึงอาจกล่าวได้ว่าจุดยืนของสำนักกษาปณ์คือ "โปรดเชื่อใจเรา" ซึ่งการไว้วางใจเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางไม่เคยเป็นนโยบายที่ชาญฉลาด และเป็นเหตุผลให้มีการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใส

## ที่มาของทองคำในฟอร์ตนอกซ์

บทความนี้ชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญว่าหากการตรวจสอบพบว่าปริมาณทองคำต่ำกว่าที่รายงานไว้อย่างเป็นทางการ ก็จะเป็นเพียงการเตือนล่าสุดว่ามีคนที่ไม่ซื่อสัตย์และไร้ประสิทธิภาพจำนวนมากในรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ประเด็นหลักที่บทความต้องการนำเสนอคือ แม้ทองคำส่วนใหญ่ในฟอร์ตนอกซ์จะยังอยู่ครบถ้วน แต่ทองคำเหล่านั้นก็มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ

นักเศรษฐศาสตร์วิลเลียม ซี. วูด อธิบายในบทความปี 1994 ว่า "คลังเก็บทองคำในฟอร์ตนอกซ์ปัจจุบันเป็นสิ่งประดิษฐ์จากยุคมาตรฐานทองคำ" โดยทองคำดังกล่าวมาจากการหลอมเหรียญทองยุคเศรษฐกิจตกต่ำ ข้อตกลงการให้ยืม-เช่าในสงครามโลกครั้งที่ 2 และการดำเนินงานของรัฐบาลภายใต้มาตรฐานทองคำ

บทความระบุว่าเหรียญทองเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นเหรียญที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมาจากเจ้าของส่วนตัวตามคำสั่งฝ่ายบริหารหมายเลข 6102 ของประธานาธิบดีแฟรงคลิน รูสเวลต์ ซึ่งห้ามการครอบครองทองคำส่วนบุคคล คำสั่งนี้บังคับให้พลเมืองต้องส่งมอบทองคำให้รัฐบาลเพื่อแลกกับราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด

 การผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรทองคำ บทความยังอธิบายประเด็นสำคัญอีกประการว่า ทองคำในสำรองของสหรัฐฯ เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลผิดสัญญาในการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์เป็นทองคำ แทนที่จะจ่ายทองคำที่เป็นหนี้แก่ผู้ถือดอลลาร์ รัฐบาลสหรัฐฯ กลับกักตุนทองคำไว้แทน

ในปี 1934 สหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้พันธบัตร Liberty Bonds ฉบับที่ 4 ซึ่งตามสัญญาควรชำระเป็นทองคำ ปัญหานี้เกิดขึ้นเนื่องจากสหรัฐฯ เผชิญกับหนี้สินจำนวนมากหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จอห์น แชมเบอร์เลนอธิบายว่าเมื่อรูสเวลต์เข้ารับตำแหน่งในปี 1933 การจ่ายดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ทองคำในคลังหมดลง และคลังมีทองคำเพียง 4.2 พันล้านดอลลาร์ ไม่เพียงพอที่จะจ่ายเงินต้นเมื่อถึงกำหนดในปี 1938

รูสเวลต์จึงตัดสินใจผิดนัดชำระหนี้ในประเทศทั้งหมดโดยปฏิเสธการไถ่ถอนด้วยทองคำให้กับชาวอเมริกัน ทองคำที่ควรตกไปอยู่ในมือเอกชนถูกกักตุนโดยรัฐบาลกลางและประกาศห้ามไม่ให้สาธารณชนเข้าถึง

การผิดนัดชำระหนี้ระหว่างประเทศ บทความยังระบุว่าทองคำบางส่วนในคลังสหรัฐฯ มาจากการผิดนัดชำระหนี้ต่อรัฐบาลต่างประเทศภายใต้ระบบเบรตตันวูดส์ในปี 1971 แทนที่จะจ่ายทองคำตามที่ตกลงไว้ รัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อตกลง โดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง จอห์น คอนนัลลี กล่าวว่า "ดอลลาร์คือสกุลเงินของเรา แต่เป็นปัญหาของคุณ"

บทความสรุปว่า สำรองทองคำไม่ควรเป็นคลังที่หยุดนิ่งของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ แต่ควรมีไว้สำหรับชาวอเมริกันและผู้ใช้ดอลลาร์ที่นำเงินมาแลกทองคำ ทองคำควรหมุนเวียนเข้าออก แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กลับปิดประตูห้องนิรภัยและประกาศว่าทองคำเป็นของรัฐบาลตลอดไป

บทความตั้งข้อสังเกตว่าหากมีการตรวจสอบทองคำสหรัฐฯ อย่างแท้จริง ทีมตรวจสอบอาจได้ตรวจสอบหลักฐานอาชญากรรมจากอดีต โดยนับทองคำที่ถูกยึดจากชาวอเมริกันเพื่อเสริมอำนาจรัฐและพันธมิตร

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/03/10/the-gold-at-fort-knox-was-stolen-from-americans-003897