ทองคำอาจพุ่งถึง 10,000 ดอลลาร์ นักลงทุนคาดสหรัฐฯ หันลงทุนทองมากขึ้น 4 เท่าแก้วิกฤตหนี้

4-12-2024

     คาดสัดส่วนการลงทุนทองคำในสหรัฐฯ อาจเพิ่มขึ้น 4 เท่า เทียบเคียงยุค 70s ที่ราคาพุ่งจาก 35 เป็น 850 ดอลลาร์ แนะจับตาพลังงาน-ยูเรเนียม-ทองแดง 'ริค รูล' เผยหากตลาดทองคำสหรัฐฯ กลับสู่ค่าเฉลี่ย เชื่อราคาทะลุ 10,000 ดอลลาร์ เทียบยุค 70s ที่พุ่งจาก 35 เป็น 850 ดอลลาร์ ขณะที่รัฐบาลอาจใช้เงินเฟ้อลดภาระหนี้

     Kitco News รายงานว่า Rick Rule (ริค รูล) ประธานและซีอีโอ Rule Investment Media นักลงทุนผู้มากประสบการณ์ เปิดเผยกับ Kitco News ว่า ทางเดียวที่สหรัฐฯ จะหลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ปัจจุบันคือการปล่อยให้เงินเฟ้อกัดกร่อนมูลค่าภาระผูกพัน เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในทศวรรษ 1970 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะโลหะมีค่า ยูเรเนียม และทองแดง

รูลชี้ว่าสถานการณ์คล้ายกับยุค 70s แม้จะรุนแรงน้อยกว่า โดยเชื่อว่าสหรัฐฯ จะชำระหนี้ตามมูลค่าที่ตราไว้ แต่จะปล่อยให้เงินเฟ้อลดทอนมูลค่าที่แท้จริง เขายกตัวอย่างว่าในทศวรรษ 1970 อำนาจซื้อของดอลลาร์ลดลง 75% ขณะที่ราคาทองคำพุ่งจาก 35 เป็น 850 ดอลลาร์ต่อออนซ์

     ปัจจุบันแม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะดูดีที่ผิวเผิน แต่เป็นเพราะการเข้าถึงสินเชื่อที่ง่าย ซึ่งไม่ยั่งยืน รูลคาดว่าการแก้ปัญหาหนี้ด้วยเงินเฟ้อจะผลักดันราคาทองคำสูงขึ้น โดยชี้ว่าปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนในโลหะมีค่าในสหรัฐฯ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก

"ทองคำไม่จำเป็นต้องเอาชนะดอลลาร์หรือทำลายตลาดพันธบัตร เพียงแค่กลับสู่ค่าเฉลี่ย สัดส่วนในตลาดสหรัฐฯ ก็จะเพิ่มขึ้น 4 เท่า" รูลกล่าว "ลองจินตนาการดูว่าอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น 4 เท่าจะส่งผลอย่างไรต่อราคาทองคำ ผมถือทองไม่ใช่เพราะคิดว่าจะขึ้นจาก 2,600 เป็น 3,000 ดอลลาร์ แต่เพราะกลัวว่าจะพุ่งไป 10,000 ดอลลาร์"

     นอกจากนี้ เขายังแนะนำให้จับตาพลังงาน โดยเฉพาะผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซของแคนาดา ยูเรเนียมที่สามารถทำสัญญาระยะยาวได้ และทองแดงที่อุปทานจำกัดแต่อุปสงค์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศกำลังพัฒนา

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.kitco.com/news/article/2024-12-02/golds-us-market-share-quadruple-what-happens-gold-price-when-happens-rick